เวลาที่ วริญญาเธอเลิกเรียนเธอจะกลับบ้านก่อน
แล้วก็เปิดร้านขายของตามปกติเป็นประจำทุกวันในช่วงเวลาเย็นๆ
และวันหยุดเธอก็จะเฝ้าบ้าน หรือร้านของครอบครัวเธอ เป็นตัวหลัก
เราจึงได้พบเห็นเพียงแค่เธอ
ไม่มีโอกาสได้เจอหน้าพ่อแม่เธอ จังๆซักครา
วันนี้ริญบอกว่าเธอกำลังเตรียมตัวสอบเอนทรานซ์
โดยครอบครัวเธอจะให้สอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์
ริญบอกว่าจุฬาลงกรณ์อยู่ที่กรุงเทพโน่น
ถ้าสอบได้คุณพ่อของเธอจะส่งเธอเข้าไปอยู่กับคุณย่าและคุณปู่เธอที่กรุงเทพ
เธอบอกว่าบ้านคุณปู่คุณย่าเธออยูแถวซอยหลังสวนใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยนั่นเอง
เราได้ฟังเธอพูด
หัวใจของเราก็เริ่มฉุกคิดขึ้นได้
นี่ความพลัดพรากกำลังจะเกิดขึ้นกับเราแล้วหรือนี่
เรานิ่งและหยุดคิดไปเรื่อย จนริญ
เธอมาจับที่มือเบาๆ พร้อมกับพูดว่า
ริญไม่อยากจากทิวไปเลย
ไปเถอะริญ นั่นมันคืออนาคตของริญ
ริญมีโอกาส ริญอย่าทิ้งโอกาสนี้เลย
เราพูดกับเธอ
ทิวเองก็อยากเรียน แต่เราไม่มีโอกาส
ทั้งที่ทิวเรียนเก่ง แต่ครอบครัวเราก็มีพี่น้องหลายคน
เราเรียนได้แค่ ม.3 ก็ออกบ้านมาหางานทำเพื่อแบ่งเบาภาระทางครอบครัว
แต่เราได้สัญญากับใจตัวเองว่าวันหนึ่งถ้าเรามีโอกาสเราจะเข้าเรียน
ตามเก็บโอกาสที่มันหล่นหายไปนี้กลับมาให้ได้
บรรยากาศการสนทนาของเรามันเริ่มไม่สนุก
เรากลับกันเถอะริญ ค่่ำแล้ว
พรุ่งนี้เราค่อยนัดเจอกันใหม่ที่รึมบึงสีฐานหน้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่เดิม
เราเดินเกี่ยวมือคุยกันไปตลอดทางก่อนที่จะแยกย้ายกัน
นี่คือบึงสีฐาน ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งบึงนี้จะด้านด้านหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย
บึงสีฐาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น