ยินดีต้อนรับทุกท่านสำหรับคนใจช้ำที่ถูกย่ำยีมาไม่ว่าคุณจะเป็นใครเราคือเพื่อนกัน

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เมื่อรักเริ่มลางเลือนความคิดถึงก็จางหาย



ความรัก ถ้ามันได้เกิดขึ้นกับจิตใจของใครแล้ว
มันก็จะเป็นจุดเริ่มต้นให้สิ่งที่ดี ไหลรวมเข้าไปหากัน
ความคิดถึง ความรู้สึกที่ดี ความห่วงใย อยากพูดคุย อยากเห็นหน้า
และอื่นๆอีกมากมายจะหลั่งไหลออกมาหากัน
โลกทั้งโลกมันจะกลายเป็นสีชมพู
มองซ้ายมองขวา ก็จะเห็นแต่ภาพรักที่งดงาม

แต่เมื่อใดก็ตามที่รักนั้นถูกตอบสนองด้วยความเย็นชา
เหมือนว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตนในโลกนี้ ไม่มีหัวใจ
การจะประคองรักให้เป็นไป ก็จะยากลำบากไปด้วย

ก็เพราะธรรมชาติของคน มีหัวใจเป็นก้อนเนื้อธรรมดา
มีชีวิต มีเลือดเนื้อ มีดีใจ มีเจ็บปวด มีผิดหวัง
เมื่อได้รับการตอบรับที่ไม่เป็นมิตร 
สิ้นสวาสตัดไมตรีนานวันเข้า

จากที่รักกันจนหวานชื่น
ก็จะกลายเป็นแค่คนเคยรัก
จากที่คิดถึงกันทุกเวลา
ก็จะเริ่มคลายคลอน ลางเลือนไป

ในที่สุดรักที่เคยมีก็จะกลายเป็นทัศนคติแง่ลบ
กับคนคนนั้นแทน จะมองหน้าก็ไม่เต็มตา
จะสนทนาก็ไม่เต็มใจแล้ว
ในที่สุดก็จะขยับชั้นไปเป็นความเกลียดชังแทน
แล้วสองคนนี้ก็จะอยู่ที่เดียวกันลำบากมากขึ้น
เพราะจะรู้สึกอึดอัดขึ้นมาแทน
อยากระเบิดอารมณ์ใส่ อยากเอาคืน
ความรู้สึกนี้มันห้ามไม่ได้เลยจริงๆ

จากคนที่คิดถึงเป็นคนแรก ก็จะกลายเป็นคนที่เกลียดเป็นคนแรก
จากที่เคยมีไมตรี ก็จะกลายเป็น ชิงชังแทน

ดังนั้น เราอย่าให้คนที่เขารักเราด้วยใจบริสุทธิ์
มีความรู้สึกว่าเขาถูกทอดทิ้งเช่นนั้น
เพราะอารมณ์เหล่านั้นจะตีโต้ย้อนกลับทันที
ก็เพราะคนมันมีหัวใจ มีศักดิ์ศรี
เมื่อมันรู้สึกว่าถูกดูถูก เหยียดหยาม มันจะรักษาสิ่งนั้นไว้เสมอ

ถ้าคุณไม่ได้รัก คนที่เขารักคุณ
คุณก้ไม่ควรทำให้เขารู้สึกเสียใจ
เหมือนเขาไม่มีตัวตน

การรักษาน้ำใจคนที่รักเราด้วยใจจริงมันสำคัญมาก
ทำแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น
ทำให้เขารู้ว่า แม้คุณไม่รักเขา คุณก็ยังเป็นเพื่อนเขาได้
ทำให้เขารู้ว่าเขาไม่เสียศักดิ์ศรี ไม่เสียกำลังใจ
ยังมองหน้ากันได้ในสังคม

เพราะนั่นคือคนที่รักเรา
มันเป็นสิ่งดี ที่มีคนมารักเรา
เราจะรังเกียจคนที่รักเราไปเพื่ออะไร
เราจะผลักคนที่รักเรา พร้อมจะปกป้องเรา พร้อมจะตายแทนเรา
ไปเป็นศัตรูหรืออย่างไร นั่นเป็นสิ่งอันตรายที่สุด
เพราะยิ่งรักมากก็ยิ่งเกลียดมากด้วย

อยู่กับคนที่รักเรายังดีเสียกว่า อยู่กับคนที่เรารัก แต่เขาไม่เคยรักเราเลย
จงรักเขาในขณะที่เขากำลังรักคุณ
จงถนอมน้ำใจเขา ในขณะที่คุณรู้สึกไม่รักเขา
อย่าให้คนที่รักคุณด้วยใจบริสุทธิ์ ไปเป็นศัตรู
เพราะคุณกำลังปิดเส้นทางเดินของคุณ ด้วยตัวคุณเอง
เมื่อความรักเขาเริ่มลางเลือน ความคิดถึงเขาเริ่มจางหาย
พื้นที่ข้างกายคุณ จะกลายเป็นที่ที่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป




วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การติดกระดุมเม็ดแรกผิดเม็ดต่อไปก็ผิดเสมอ




คำว่าครอบครัวจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อ
ชายหนุ่มและหญิงสาวที่รักกันมีทัศนตรงกัน
มีความรู้มีการศึกษาใกล้เคียงกัน
ตกลงพร้อมใจจะอยู่กินกันฉันสามีภรรยา
และมาสร้างครอบครัวร่วมกัน มีสมาชิกใหม่ให้ครอบครัวเป็นโซ่ทองคล้องใจ
มีอนาคต มีความหวังร่วมกัน ว่าลูกเต้าจะได้ดิบได้ดีไม่ลำบากตรากตรำ

แต่การใช้ชีวิตคู่ มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวแต่อย่างใด
กรณีของอีกคู่หนึ่ง ก็ไม่สามารถนำไปเป็นบรรทัดฐานของอีกคู่หนึ่งได้
ทั้งนี้มันขึ้นอยู่ที่จุดเริ่มต้นของคำว่าครอบครัว
ถ้าเราเริ่มต้นผิดมันก็ผิดตลอด ถ้าเราเริ่มต้นถูกมันก็ถูกตลอด

มันเหมือนกับการติดกระดุมเสื้อเม็ดแรก
ถ้าเม็ดแรกมันผิด เม็ดต่อๆไปมันก็ผิด
ยิ่งเรายิ่งฝืนยิ่งรั้น มันก็จะยิ่งผิดไปไกลเกินแก้

หลายคนทั้งที่รู้ว่าติดกระดุมเม็ดแรกผิด
แทนที่จะกลับมาปลดคลายกระดุมออกใหม่
แล้วค่อยติดกระดุมใหม่อีกครั้งให้ถูกต้อง
กลับดื้อรั้นฝืนมัน บางคนเมื่อรู้ว่าเม็ดแรกผิด ก็ตัดกระดุมเม็ดที่เหลือทิ้ง
แล้วปล่อยเสื้อรอยชาย ติดกระดุมผิดเม็ดเดียวไว้อย่างนั้นต่อไป

การเริ่มต้นครอบครัวที่ผิดมีหลายอย่างเช่น
การที่หนุ่มสาวไม่ได้รักกัน แล้วมาอยู่กินด้วยกัน
เพราะเหตุผลบางอย่าง เช่นสภาพครอบครอบครัว
สภาพเศรษฐกิจ ถูกบังคับจากผู้ใหญ่ หรือรับผิดชอบในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

หรือพวกไม้ป่าเดียวกัน หญิงรักหญิง ชายรักชาย
กลุ่มคนประเภทนี้ไม่สามารถเดินหน้าครอบครัวได้
จริงอยู่ดูภายนอกแม้เพียงผิวเผิน ดูเหมือนว่ามีความสุข
แต่ภายในใจลึกๆของแต่ละคู่ ต่างมองเห็นอนาคตของตัวเองว่ามันจะเป็นไปอย่างไร
จะมั่นคงจีรัง หรือแค่รักกำมะลอ ต่างฝ่ายต่างหลอกใจกันไปวันๆเท่านั้น
นี่เป็นตัวอย่างข้างต้นของครอบครัวที่ไม่เป็นครอบครัว
คือมีก็เหมือนไม่มี ไม่เห็นความแตกต่าง เพราะการเริ่มต้นที่ผิด
มันเป็นความผิด หรือเป็นบาปของคนอีกฝ่ายหนึ่งที่เคยทำขึ้น
แล้วมารับผลกรรมในชาตินี้ แต่กลับมาดึงเอาชีวิตของคนอีกคนทั้งชีวิต
ให้ดำดิ่งตกต่ำตามตัวเองลงจมบ่อจมโคลนลงไปด้วย

คำว่าตกต่ำนี้ไม่ได้หมายถึงฐานะ
แต่หมายถึงเป้าหมายชีวิตของอีกคน หรือคู่เรา
เราดึงเขามาจมกับเรา แทนที่เราจะปลดปล่อยเขาไปและให้ความยินดีกับเขา
ที่เห็นเขาไปใช้ชีวิตอยู่อย่างครอบครัวปกติที่เขาควรเป็น
เรากลับเห็นแก่ตัว เหนี่ยว รั้ง กักขัง พันธนาการด้วย พันธะ ข้อสัญญาต่างๆ
เพื่อกักล่ามเขาเอาไว้อยู่กับเราทั้งชีวิต ให้เขามาร่วมรับเวรรับกรรมที่เขาไม่ได้ก่อร่วมกับเราไปด้วย เป็นการแสดงความเห็นแก่ตัวของเราเอง ไม่ใช่ความรัก เพราะคนรักกัน จะยินดี
ที่เห็นคนที่เรารักไปได้ดีมีสุข มีครอบครัวสมบูรณ์ กว่าที่อยู่กับเรา แล้วเราก็พลอยยินดีไปด้วยแม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน นั่นต่างหากจึงเรียกว่ารัก

ถ้าเราดูหนังไทยเราจะเห็นว่าความรักเริ่มจากหนุ่มสาวจีบกันแล้วมีอุปสรรคมากมาย
มาขวางกั้น แต่สุดท้ายก็ได้แต่งงานกันแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

แต่.. หลังจากแต่งงานแล้วชีวิตคู่เป็นอย่างไร ไม่มีการนำเสนอ
ต่างจากหนังฝรั่ง ที่มักจะเริ่มต้นเรื่องด้วยการมีครอบครัวมีลูกแล้ว และเขานำเสนอถึงปัญหา
ของครอบครัว ปัญหาของการใช้ชีวิตคู่ ให้เราเห้นว่า มันมีเส้นทางอย่างไร หลังจากที่คนสองคนที่ต่างคนต่างมา มาใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน

มันจึงเป็นความแตกต่างของวิธีคิดของฝรั่งกับคนไทย
ข้อคิดอย่างหนึ่งคือ ฝรั่งจะหย่ากันทันทีเมื่อเขาเห็นว่าชีวิตคู่มันไปต่อไม่ได้
เขาจะไม่ฝืน ไม่ดึงดัน แต่เขาจะคืนสิทธิ คืนชีวิตให้กันและกันทันที เพื่อเดินไปแสวงหาสิ่งที่ควรเป็น ของแต่ละคน คือเขาให้โอกาสกัน และการแต่งงานใหม่จึงมีขึ้นเสมอ
ในสังคมแบบฝรั่ง และถือเป็นเรื่องธรรมดา

แต่สังคมไทยไม่ใช่
ถึงแม้อยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ยังฝืนทน
เหนี่ยวรั้งกันและกันเอาไว้ซึ่งไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย
เพราะเราติดยึดตรงที่ หน้าตา ชื่อเสียง เกียรติยศ มากกว่าเหตุผลในการมีชีวิตต่อไป
ดังนั้นเมื่อ ครอบครัวไม่มีสายใยรักหลงเหลือในบ้านแล้ว ฝืนทนต่อไปก็ไม่มีประโยชน์
ต่างฝ่ายต่างหาทางออกให้ตนเอง ฝ่ายชายก็ไปมีผู้หญิงคนใหม่
ถูกเรียกว่าเมียน้อย เพราะเมียหลวงยังหย่าไม่ได้

ส่วนฝ่ายหญิงก็ไปมีชายใหม่ ถูกเรียกว่าชู้
เพราะยังหย่าขาดจากสามีไม่ได้เช่นเดียวกัน

ทั้งที่คนสองคนนี้เข้าใจกันว่าพวกเขาอยู่กันต่อไม่ได้แล้ว
จึงไปตามทางตนเอง แต่สังคมและคนรอบข้างไม่ปล่อยให้เขาไป เพราะมีหน้าตาเข้ามาแทนนั่นเอง นี่จึงเป็นปัญหาสังคมตามมาอีกมากมายในสังคมไทย
เช่นลูกไม่มีความสุข ติดสิ่งเสพติด 
ครอบครัวไม่เป็นครอบครัว
เกิดการฟ้องร้องกัน ทั้งที่เพียงแค่ต่างฝ่ายต่างคืนชีวิตให้แก่กัน
มันก็จบต่างฝ่ายต่างไปมีชีวิตใหม่ที่ตนเองเลือกและเห็นว่าดี
และต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลลูกต่อไปเท่านั้นปัญหาก็จบ แต่เราไม่ทำทั้งๆที่เรารู้ว่าปัญหาคืออะไรนี่ต่างหากที่น่าคิด




วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เลือดก้อนสุดท้ายของพ่อแม่ฝากไว้ที่เรา



เพื่อนทั้งหลาย
เลือดเนื้อทุกหยดในกายเรา
ทุกอณูที่ประกอบเป็นร่างกายเราขึ้นมา
คือเลือดเนื้อของพ่อของแม่ที่ฝากสายเลือด
เพื่อที่จะให้เรารักษาและสืบทอดสายเลือดของพวกท่านต่อไป
เราจะใจดำลงคอที่จะหยุดยั้งสายเลือดก้อนนี้ให้สิ้นสุดลงที่เรา
ความกตัญญูกตเวที คือการรู้คุณผู้ให้กำเนิดผู้ให้ชีวิตผู้เลี้ยงดู
อบรมสั่งสอนและต้องรู้จักการตอบแทนบุญคุณท่านเหล่านั้น
บางครั้งการที่เราเกิดมา
ชีวิตก็ทุกข์บ้าง สุขบ้างตามสภาพครอบครัว
แต่สุดท้ายเราก็เติบโตมาได้
นั่นหมายความว่ามีผู้เลี้ยงดูเรา
มีผู้ให้ชีวิตเรา
ผู้ที่มีพระคุณเหล่านี้
ต้องการอะไรจากเราทดแทนการให้ชีวิต ทดแทนการเลี้ยงดูของพวกท่าน
ท่านเหล่านั้นเหนื่อยยากแค่ไหน ทุ่มเทแค่ไหนที่ต้องเลี้ยงเรามาให้เติบโต
ท่านเหล่านั้นหวังจะให้เราเติบใหญ่ ได้ดีมีความก้าวหน้า
มีครอบครัว มีลูกมีหลาน สืบต่อสายเลือดสายสกุล สืบทอดจิตวิญญาณท่าน
ให้เลือดก้อนนั้นยังคงอยู่บนโลกใบนี้ตราบเท่านานแสนนาน

แต่ถ้าเราจะให้เลือดของพ่อ ของแม่เราสิ้นสุดลงที่เรา
โดยที่เราไม่คิดสืบทอด ไม่มีลูกมีหลานให้ท่านสืบไว้ในโลกนี้
ก็เท่ากับเราเนรคุณพ่อแม่ผู้ที่ให้กำเนิดเรา และรักเราที่สุดนั่นเอง

จงคิดดูว่ามันสมควรหรือไม่
จงอย่ากลัวการมีครอบครัว
จงอย่ากลัวการมีภาระ
จงอย่ากลัวการมีลูกหลาน
เพราะนั่นคือ ภาระหน้าที่โดยตรงของมนุษย์
ที่จำเป็นต้องทำ จำเป็นต้องรับภาระหน้าที่นี้
และส่งต่อสายเลือดพ่อแม่เราไปยังรุ่นต่อๆไป
เพื่อให้เลือดเนื้อเชื้อไขพวกท่านไม่หายไปจากโลกนี้

พวกท่านไม่ได้เลี้ยงเรามา
เพื่อให้เราเห็นแก่ตัว กลัวลำบาก
เพราะพวกท่านก็ลำบากเพื่อเรา
เพื่อที่จะให้เราสืบภาระหน้าที่นี้ต่อไป
จงคิดดูให้ดีว่าเราจะเป็นผู้เนรคุณท่าน
เพราะเห็นแก่ตัว ใช้ร่างกายที่ท่านให้มาไปในทางที่ผิดกระนั้นหรือ
หันกลับมาเสียเถิด เพื่อบุพการีผู้ประเสริฐของเรา
เราไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่เราทำเพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าเราเกิดมาไม่เสียชาติเกิด
ที่เกิดมาแล้วก็ใช้ชีวิตไปวันวันแล้วก็ตายทิ้ง
โดยที่ไม่ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่เลย
ถ้าเราเป็นผู้ชายก็ยังมีโอกาสหลายทางเช่น
บวชแทนพระคุณ ดูแลครอบครัว
สร้างสายเลือดใหม่ให้ท่าน
แต่ถ้าเป็นผู้หญิงล่ะก็
มีทางเดียวคือรับหน้าที่เป็นแม่ของหลานท่านเสียเท่านั้น
ไม่มีโอกาสได้บวชทดแทน
ยิ่งถ้าเราเป็นลูกโทนคนเดียว
นั้นหมายถึงเราแบกรับหน้าที่ใหญ่หลวงนี้ทั้งหมดเพียงผู้เดียว
เราจะไม่มีทางหนีบ่วงกรรมนี้ได้เลยถ้าเราไม่ทำหน้าที่
เราจะเป็นผู้เนรคุณ ติดค้างพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเลี้ยงดูเรามา
เราจะรักใครก็ได้ในโลกใบนี้ เราจะอยู่กับใครก็ได้ในโลกใบนี้
แต่เราไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธหน้าที่ที่พ่อแม่ให้เรามาแต่กำเนิด
เราไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดเส้นทางสายเลือดก้อนสุดท้ายของพ่อแม่ให้หมดลง
ไปจากโลกใบนี้ มิเช่นนั้นเราจะกลายเป็นคนบาปหนา เสียชาติเกิด
เสียแรงที่พ่อแม่ฟูมฟักเลี้ยงดูมา แต่ต้องมา เสียแรงเปล่า
เราจะบอกกับพ่อแม่เราว่าอย่างไรเมื่อเราตายไปพบกับหน้าพ่อแม่เรา

และเรายังจะได้รับผลกรรมนั้นทุกภพชาติ คือเกิดมาก็ผิดปกติ
มีบาปมีเวรติดตัวทุกชาติไปเป็นชายก็ไม่ใช่ เป็นหญิงก็ไมเชิง
อย่างนี้ตลอดไปทุกชาติ ไม่มีสิ้นสุด เหตุก็เพราะเราไม่ทำหน้าที่ของเรานั่นเอง
จงคิดทบทวนดูเถิดสหายเอ๋ย
จงอย่ากลัวที่จะรัก
จงอย่ากลัวที่จะมีครอบครัว
จงอย่ากลัวที่จะเป็นแม่
จงอย่ากลัวที่จะเป็นพ่อ
จงอย่ากลัวความลำบากเพราะทำหน้าที่นั้น
เพราะนั้นคือสิ่งที่จะประกาศ และพิสูจน์ตัวเราว่าได้ทำหน้าที่ที่สวรรค์ให้มาผ่านหรือยัง
อย่าให้เขาด่าทอว่าไอ้คนเสียชาติเกิด พ่อแม่ตายแล้วรอท้องเองเพื่อมาเกิดตั้งหลายปี
ก็ไม่มีโอกาสได้มาเกิดเสียที ปล่อยให้พ่อแม่ระทมทุกข์ในปรโลก
เพราะรอเกิดจากท้องเอง

มันเป็นเรื่องจริงที่พ่อแม่เราจะอาศัยท้องคนอื่นที่ไม่ใช่สายเลือดไปเกิดไม่ได้
ท่านเหล่านั้นเมื่อตายแล้วก็อาศัยท้องลูกเต้าตัวเองที่เหลืออยู่ในโลกนี้
เท่านั้นเวียนกลับมาเกิดอีกครั้ง 
จงอย่าให้พวกท่านรอนาน และเสียใจ สหายเอ๋ย ฉันเตือนพวกนายแล้ว




วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ผู้ชายกำมะลอ


โอ้คนดี พี่นี้ ใคร่ขอถาม
ให้คนงาม ตอบพี่ หน่อยได้ไหม
พูดความจริง ที่ออก มาจากใจ
จะได้ไข ข้องใจ พี่เสียที
เธอชอบหญิง หรือชาย ใครกันแน่
ชอบชายแท้ หรือไม่ โอ้น้องพี่
ชายจริงจริง ที่หลง รักคนดี
เธอวิ่งหนี  บอกพี่ นี่อะไร
หรือเธอชอบ ผู้ชาย กำมะลอ
เที่ยวเร่ขอ หาของ ปลอมมาใส่
ชอบยัดเยียด ของปลอม เข้าภายใน
มันถูกใจ หรือน้อง พี่ข้องคา
ชอบผู้ชาย กำมะลอ ของพันธุ์นั้น
เธอมีสุข อะไรกัน พี่อยากหา
ชอบลุ่มหลง ของปลอม มอมกามา
อยากรู้ว่า เธอนั้น คิดอย่างไร
มีหลายสิ่ง ที่หญิง ทำไม่ได้
คือให้ความ เป็นชาย  จริงใช่ไหม
เขาให้ลูก กับเธอ ได้หรือไร
เอาอะไร กับชาย กำมะลอ
ใช้แท่งยาง ยัดเยียด ความเป็นผัว
เพราะของตัว นั้นหา ไม่ได้หนอ
เลยพึ่งพา รูปร่าง แท่งยางทอ
มีชีวิต ลวงล่อ น่าอับอาย
ชายจริงจริง  ที่เขา ยื่นไมตรี
พร้อมตกแต่ง คนดี  ไม่เสียหาย
เขารักเธอ แต่เธอ นั้นกลับกลาย
บอกได้ไหม ว่านี่ มันอะไร
ชอบของปลอม พี่นี้ จะเสาะหา
แท่งเล็กใหญ่ พี่จะ หามาให้
บอกพี่มา คำเดียว แม่ขวัญใจ
เธอมีสุข  อะไร กับของปลอม
ของแท้จริง มีเลือด มีกล้ามเนื้อ
จะก่อเกื้อ เพื่อเธอ แม่เนื้อหอม
ลองซักครั้ง เถิดนะ พวงพยอม
ให้พี่ดอม สักครั้ง อาจเปลี่ยนใจ
ถ้าไม่ดี พี่นี้ จะยอมแพ้
ขอเพียงแต่ เธอยอม จะได้ไหม
พิสูจน์กัน ว่าใคร แน่กว่าใคร
ถ้าพี่สู้ ไม่ได้ ไปทันที

วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รัก เหงา เศร้า รอ


ความรัก
มันเป็นสิ่งแปลกประหลาด
ที่สามารถทำให้จิตใจเราฮีกเหิม และหงอยเหงาเศร้าตรมลงได้
ยามใดที่เรามีรัก จิตใจเราก็ฮีกเหิม สามารถพลิกฟ้าคว่ำดินลงได้
ในขณะเดียวกัน มันก็สามารถทำให้คนที่มีชีวิตจิตวิญญาณดีๆ
กลายเป็น ร่างที่ไร้วิญญาณลงได้เช่นเดียวกัน

มันอยู่กับสถานการณ์ว่าเราอยู่ในอารมณ์ใดเท่านั้นเอง
ส่วนตัวฉันเองเวลานี้ รู้สึกเหงา ว้าเหว่
คิดถึงใครคนนึงมากมาย อยากเห็นหน้า อยากพูดคุย
อยากสวมกอดเธอให้หายคิดถึง


ไม่รู้เธอจะรู้ไหมว่า ฉันคิดถึงเธอแค่ไหน เพียงไร
ตั้งแต่เธอจากไป หัวใจฉันก็ไม่เคยอยู่กับเนื้อกับตัวอีกเลย
มันจากตัวฉันไปพร้อมๆกับเธอแล้ว
ฉันอยากให้เธอรีบๆกลับมา พาหัวใจของฉันกลับมาเสียทีที่รัก
ฉันอยากได้ยินเสียงเธอ ฉันอยากเห็นหน้าเธอ ฉันอยากสวมกอดเธอ
ให้สมกับที่ฉันคิดถึง ฉันอยากสัมผัสไอรัก ไออุ่นจากเธอ

เธอคิดถึงฉันไหม
ฉันอยากรู้ ยามไม่มีฉัน เธอคิดถึงใคร
เธอกินข้าวกับใคร ดูทีวีกับใคร
ฉันอยากรู้ ฉันเหงาจังยามข้างกายฉันไร้เงาเธอ
ฉันไม่ชอบอารมณ์อย่างนี้เลยที่รัก
ฉันอยากตามหาเธอ และพาเธอกลับมา
เพื่อเธอแล้วฉันสามารถพังทลายกำแพงกั้นทุกอย่างลงได้
เพื่อให้หัวใจฉันได้อยู่กับเธอ ฉันทำได้เสมอ ถ้าเธอต้องการ
รีบกลับมานะจ้ะที่รัก ขอให้เธอรู้ด้วยว่า
ทุกวันทุกเวลาทุกวินาที ที่เธอจากฉันไป
เป็นเวลาที่ชีวิตฉันไม่มีความสุขเลย
ฉันเฝ้าแต่ถามใจฉันว่า ฉันเป็นอะไร
และฉันก็ได้คำตอบมาว่า เป็นเพราะฉันรักเธอนะสิคนดี
กลับมาบ้านเรานะจ้ะ ฉันยังเฝ้าคอย
เหม่อมองทางเสมอทุกคราที่รถยนต์สีขาววีออสเข้าจอด
ฉันแอบคิดไว้ว่า เธอกำลังมาแล้ว
แต่ฉันก็พลาดหวังทุกครั้ง
อย่าทรมานฉันเลยคนดี
ฉันจะนั่งรอเธอทุกวันทุกคืนจนกว่าจะเห็นเธอขับวีออสเข้ามาจอด
และเปิดประตูลงจากรถ และฉันอยากให้เธอเห็นหน้าฉันเป็นคนแรกทันที ที่ลงจากรถ
และเรียกชื่อฉันเป็นคนแรกที่ออกมาจากปากและใจเธอ
และถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากวิ่งเข้าไปสวมกอดเธอ ต่อสายตาผู้คนทั่วไป
ให้พวกเขาได้รู้ว่าเรารักกัน ฉันรักเธอ
และเฝ้ารอเธอกลับคืนมาบ้านเราทุกเวลา




เพลงคิดถึงเธอแทบขาดใจ พี่เป้า สายัณห์ สัญญา ขับร้อง

มอบเพลงนี้ให้คนดีผู้เดียว




วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เจ็บเพราะความจริงดีกว่าหลอกตัวเอง


การที่เรามีความจริงใจให้กับใครซักคนและมีโอกาสได้บอกความในใจนั้นแล้ว
แต่ถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเยื่อขาดใยจากคนคนนั้น
แน่นอนมันเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่เมื่อเรามาตรึกตรองดูให้ถ้วนถี่
เรากลับรู้สึกภาคภูมิใจ
ที่เราเป็นคนจริง
กล้ายอมรับความจริงในใจตัวเองแล้วก็พูดออกไป
แม้จะถูกปฏิเสธแบบไม่ไว้หน้ากันก็ตามเถอะ
เราไม่ได้ผิดอะไร ที่จะมีความรัก หรือจะชอบใครซักคน
มันไม่ใช่ความผิดเลย มันเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ
คนที่ไม่ต้องการความรักนั่นสิ
คือคนที่หลอกตัวเองและเบี่ยงเบนตัวเองออกจากธรรมชาติของสัตว์โลก
เราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ควรแล้ว ก็ไม่มีเหตุให้เรา
ต้องมานั่งทนทุกข์ระทมใจอีกแล้ว

และเป็นสิทธิเช่นกันที่คนที่เราบอกรักจะปฏิเสธ
มันเป็นสิทธิของเธอและเขาเช่นกัน
แต่สิ่งที่มันฟ้องตัวเธอเองว่า เป็นคนอย่างไร
ก็คือ อากัป กริยา คำพูด ภาษากายที่เธอแสดงออก
ตรงนั้นต่างหากคือสิ่งที่เราได้คืนมามากกว่าอย่างอื่น

การที่เราเจ็บเพราะคำพูดเหล่านั้น
แต่เราก็ได้รู้จักคนคนนั้นมากขึ้น
บางทีมันก็เกินคุ้ม
มันทำให้เราเริ่มปรับฐานความคิดเสียใหม่
ว่าคนคนนั้นที่แท้ตัวตนที่จริงๆเป็นอย่างไร

อารมณ์เดือดดาน เก็บกด ระแวง
หวาดกลัว เหมือนกำลังจะวิ่งหนีคนทั้งโลก
ซึ่งมันทำให้เราเห็นว่า เหตุใดเธอจึงเดินทางผิด
เหตุใดเธอจึงเดินหลงทางไปได้
ก็เพราะจิตใจเธอไม่เข้มแข็งพอ
ไม่แข็งแรงพอ ไม่กล้ารับความจริง
ไม่กล้าเผชิญความจริง
พยายามสร้างกรอบ ตีกรอบกักขังตัวเอง ออกจากคนทั้งโลก
และคิดเอาเองว่าโลกทั้งโลก รังเกียจตนเอง
ทั้งที่ ตัวเธอเองกักขังตัวเอง และมีคนยื่นโอกาส ยื่นไมตรีตลอดเวลา

แต่เธอกลับกลัว
กลัวที่จะมีรักมีครอบครัว
กลัวที่จะเจอกับคนรักจริง

แต่เธอกล้าที่จะแอบเร้นตัวเองออกจากสังคม
เธอกล้าที่จะ อยู่ในโลกจอมปลอมของเธอ ที่เธอสร้างขึ้น
โดยคิดว่านั่นคือสิ่งที่ดี ที่สุด สบายใจที่สุด ยั่งยืนที่สุด

เธอคิดผิดมาตลอด 
นั่นคือสิ่งผิด ทางผิด
เธอถามตัวเธอเองซิว่า
เธอทำเพื่ออะไร
เธอจะได้อะไรกับทางชีวิตนั้น
ชีวิตที่หลอกลวงตัวเอง จอมปลอม ปรุงแต่ง
หลอกใจตัวเองไปวันวัน

ถ้าเธอต้องการชีวิตอย่างนั้นจริง
เธอจะไม่หลบเร้นสังคม
เธอก็ไม่จำเป็นต้องสร้างสมทรัพย์สินอะไร
ให้เหนื่อยยากลำบาก
ก็เธอไม่มีใคร ไม่ต้องรับผิดชอบใครอยู่แล้ว
รับผิดชอบแค่ตัวเธอเอง และคนที่เธอคิดว่าสวรรค์ส่งมาให้เท่านั้น

ฟังนะที่รัก
ถึงแม้ฉันจะเจ็บปวดจากภาษาพูด ภาษากายที่เธอทำกับฉัน
แต่ฉันกลับภาคภูมิใจในตัวเอง ที่ฉันได้รักเธอ
ได้บอกให้เธอรู้ว่าฉันรักเธอ

นั่นก็เพราะฉันให้เกียรติเธอ
ฉันเห็นคุณค่าเธอ
ฉันจึงอยากได้เธอมาร่วมเรียง
มาเป็นแม่คน เป็นแม่ของลูก
มาเป็นภรรยาที่ดี
และยินดีตกแต่งเธอตามประเพณี
เพื่อประกาศว่าฉันรักและให้เกียรติเธอ
ฉันได้แสดงเจตจำนงที่ดี ที่ควรแล้ว
และฉันก็ยังรักเธอเสมอ ตลอดไป

แต่เธอลองมองคนข้างตัวเธอสิ
เขาทำอะไรให้เธอ เขาเห็นเธอเป็นแค่ของเล่น
สนองตัณหา สนองอารมณ์วิปริตของเขา
จับโน่นจับนี่มายัดเยียดใส่เธอ
เห็นเธอเป็นเพียงทรัพย์สินส่วนตัว
จะทำอะไรกับเธอก็ได้
โดยที่เธอจะไม่เห็นความหวัง
โดยที่เธอจะไม่เห็นอนาคต
แต่เขาต้องการกักขังเธอไว้ข้างกาย
เพื่อเป็นที่ระบาย รองรับอารมณ์วิปริตเขา
ไม่สนใจความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ
เป็นการดับอนาคตเธอทั้งชีวิต

ถ้านี่เธอเองก็คิดว่า เป็นสิ่งที่ดีงาม
ก็แสดงว่าเธอเองนั่นแหละ วิปริตเสียยิ่งกว่า
นี่เป็นเสียงเตือนจากใจฉัน
เธอไม่ต้องสนใจว่า ฉันจะคิดอย่างไรกับเธอ
แต่ฉันอยากให้เธอคิดตามที่ฉันเตือนเธอว่ามันจริงไหม
ฉันเชื่อว่าส่วนลึกในใจเธอ เธอก็ไม่มีความสุขหรอกกับชีวิตแบบนั้น
ในเมื่ออยู่เป็นของเล่นเขาก็ไม่ดี ไม่มีเกียรติ
ไม่ถูกยกออกหน้า ทุกข์ ลำบากอยู่แล้ว

ทำไมเธอไม่ลองก้าวออกมาอยู่กับความจริงบ้าง
แม้ทุกข์บ้าง สุขบ้าง เธอก็ภูมิใจกับมันมากกว่า
เจ็บเท่ากัน แต่ความรู้สึกทางใจดีกว่า
มองหน้าคนได้เต็มตามากกว่าทำไมเธอไม่ลองคิดตรองดู

ฉันรักเธอ และห่วงใยเธอเสมอมา
แม้จะไม่ดีเท่าที่ควร ฉันก็มั่นใจว่า
เวลาที่เธออยู่กับฉันแม้เพียงน้อยนิด
ฉันก็มั่นใจว่าเธอได้ความรู้สึกที่แตกต่าง
ระหว่างฉันกับเขา เธอได้ความรู้สึกที่ดี
จากสัมผัสรักที่เป็นธรรมชาติ ที่ฉันให้เธอมาโดยตลอด 

แต่เธอสิที่รัก เธอกำลังทำอะไรกับตัวเอง
เธออยู่ไปเพื่ออะไรในชีวิตนี้
เธอเคยได้ยินเสียงร้องทักตักเตือน จากญาติสนิท
มิตรสหาย หรือบุพการีของเธอหรือไม่ว่ามันผิด

หรือได้ยินแล้วแต่เธอไม่ฟัง ไม่เคยฟังเลย
เธอจึงพยายามสร้างโลกของเธอ
เพื่อให้หนีไกลจากคนอื่นมาตลอดใช่หรือไม่

เธอยังมีเวลาที่จะเริ่มต้นใหม่
มันไม่มีคำว่าสายไปสำหรับการเลือกทางเดินที่ถูกต้อง
มันอาจไม่ราบรื่นบ้าง เจ็บบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง
แต่นี่มันก็คือเส้นทางชีวิตที่ถูกต้องมิใช่หรือคนดี

ไม่มีใครเลยที่เส้นทางโรยด้วยกลีบกุหลาบ
แม้แต่พ่อแม่ของเราเองก็เป็นเช่นนั้น
เราอาจพอใจ หรือไม่พอใจ
แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ให้ชีวิตเรา ให้กำเนิดเรามา
แล้วเรื่องอะไรที่เราจะต้องลงโทษตัวเอง
มองสังคมแง่ลบไปเสียหมด

เธอควรปรับตัว ปรับใจ
มองคนรอบข้าง
ฟังเสียง พวกเขาให้ดีๆ
ภายใต้เสียงตำหนิ ดุด่า มันมีความรัก ความปรารถนาดีซ่อนอยู่หรือไม่
หรือจะอยู่ในโลกจอมปลอมว่างเปล่าของตัวเองต่อไป
ท่ามกลางสายตาสังคมที่สนเท่ห์

เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นอย่างนั้น
แต่เธอพยายามทำให้มันเป็นเอง
อย่าให้คนวิปริต มานำทางชีวิตเธออีกต่อไป
มิเช่นนั้นเส้นทางชีวิตเธอจะจบลงอย่างน่าสมเพชที่สุด
ทั้งที่เธอมีโอกาสจากสังคมมาโดยตลอด ถึงวันนั้นจะมาพูดว่า ฉันเสียใจ มันก็คงไม่ทันแล้ว