ยินดีต้อนรับทุกท่านสำหรับคนใจช้ำที่ถูกย่ำยีมาไม่ว่าคุณจะเป็นใครเราคือเพื่อนกัน

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อย่าใช้ความไม่เข้าใจไปตัดสินงานศิลป์ใคร


ศิลปิน หรือ artist ถ้า แปลตามพจนานุกรมไทย
ก็หมายถึง ช่างผู้สร้างงานศิลปะที่มีความชำนาญ ประมาณนั้น

สรุปง่ายๆคือ คนสร้างงานศิลป์ หมายถึงคนที่มีผลงานของตนเอง
ฝรั่งเขาจะเรียกคนว่า artist ก็ต้องหมายถึงมีฝีมือ มีผลงานจริงๆ เช่น
ไมเคิล แองเจโร 
เลียวนานโด ดาวินชี่
แวงโก๊ะ ฯลฯ

เขาจะไม่เรียกดาราว่าศิลปิน แต่เขาจะเรียกสตาร์ หรือซุปเปอร์สตาร์
หรือนักแสดง หรือแอคเตอร์ หรือนักร้อง
แต่ที่ประเทศไทย พอได้เอาหน้าเดินผ่านกล้องก็เรียกตัวเองว่า ศิลปินแล้ว
ได้มีโอกาสลงเสียงในห้องอัด ก็เรียกตัวเองว่าศิลปินเช่นกัน
ดังนั้นศิลปินเมืองไทยจึงเกลื่อนถนน แต่ในความหมายที่ไม่ตรงกับฝรั่งเขา

บางคนแยกไม่ออกระหว่าง การแสดงออกส่วนตัวกับงานศิลป์
คือไม่เข้าใจคำว่า ศิลปะคืออะไร
หรือบางคนก็แยกไม่ออกระหว่างบทบาทกับตัวตนแท้จริง

สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหา กับคนที่ได้มีโอกาสรู้จักกับผู้ที่เป็นศิลปิน
เพราะแยกแยะไม่ได้ว่าอันไหนตัวตน อันไหนงานศิลป์
ทั้งนี้เพราะใช้ชีวิตร่วมกับเขาจนแยกไม่ได้

งานศิลปะที่ศิลปินสร้างขึ้นทุกอย่างมันต้องมี กรอบความคิด
จินตนาการ ความคาดหวัง เป้าหมาย แง่คิด มุมมอง แฝงอยู่ในนั้นด้วย

มีบางคนพูดว่า ศิลปินใช้วิธีโกหก เพื่อที่จะบอกเรื่องราวความจริง
คือพูดออกมาตรงๆไม่ได้ ก็เลยใช้วิธีการแบบศิลปินคือ สมมุติว่ามันไม่มีจริง
แล้วถ่ายทอดสิ่งที่อยากบอกนั้นออกไปให้สังคมรับรู้

งานศิลป์หลายอย่างเกิดจาก แรงบันดาลใจ จากใครซักคนหรืออะไรซักอย่าง
หรือเกิดจากจินตนาการ อุดมการณ์ ความฝัน หรือเกิดจากตัวเอง 
สังคมรอบข้าง หรือคนใกล้ตัว

เมื่อคนเหล่านี้ได้อ่าน ได้ดู ได้เห็นจึงเหมือนกับมองดูตนเองผ่านงานศิลป์
บางครั้งตรงกับจริตก็บอกชอบ พอไม่ตรงกับจริตก็บอกไม่ชอบ
ก็เป็นธรรมดา เพียงแต่อยากให้แยกแยะให้ออกว่า 
อันไหนส่วนตัว อันไหนงานศิลป์
มิเช่นนั้นคุณจะเป็นคนที่ปวดหัวที่สุด
ถ้ามีแฟนเป็นศิลปิน
เพราะเขามองสิ่งเดียวกับคุณ แต่มองอีกแง่มุมที่คุณมองไม่เห็น
เขามองในแง่ของศิลปิน และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆนั้น
ถ่ายทอดออกมาผ่านงานศิลป์ ทั้งรูปภาพ ประติมากรรม และงานกวี



คุณมองเห็นอะไรระหว่างแก้วไวน์หรือคนสองคนกำลังจะจูบกัน นั่นแหละคืองานศิลป์






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น