ยินดีต้อนรับทุกท่านสำหรับคนใจช้ำที่ถูกย่ำยีมาไม่ว่าคุณจะเป็นใครเราคือเพื่อนกัน

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ชอบของใหญ่ของยาวเลยได้สมใจอยาก






สมัยยังเด็ก
เรายังไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับชีวิตเลย
ไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวตาย ไม่รู้ยากจน ไม่รู้ร่ำรวยว่าคืออะไร
พอโตมาหน่อย ก็เริ่มรู้ว่า อะไรคือลำบาก อะไรคือสบาย

พอตอนรุ่นๆน้าเรามีรถมอเตอร์ไซค์
เราก็ได้ขับได้ขี่ ก็รู้สึกว่า สบายดี สะดวกดี ก็เท่านั้น
แต่วันนึงเพื่อนบ้านใกล้กันเขามาบอกว่า พ่อข้าซื้อรถยนต์มาด้วย
เพื่อนบอกเราว่า รถยนต์มันดีกว่ามอเตอร์ไซค์ของน้าเอง
แสดงว่าน้าเองยากจนกว่าพ่อข้า

ตอนนั้นสิ่งที่เข้ามาในสมองคือ ใครมีรถคันใหญ่แสดงว่ารวยกว่าใช่มั๊ย
ตามแนวคิดของเด็กๆรุ่นๆกระเตาะ
พอเราจบ ม.3 ออกหางานทำ มีเงินเดือนใช้ มีเงินเก็บ มีเงินส่งพ่อแม่
ได้เรียนรู้ สังคม เข้าใจสังคม เข้าใจชีวิตมากขึ้น ก็ได้รู้ว่า

รวยหรือจนไม่ได้อยู่ที่รถคันใหญ่หรือคันเล็ก
เพราะเวลาต่อมา พ่อเพื่อนเจ้าของรถคันใหญ่ มายืมเงินน้าเรา
ซึ่งมีรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อไปจ่ายค่างวดรถยนต์
เราจึงรู้ว่า เปลือกนอกคนนั้น ดูเหมือนใหญ่แต่เปลือกในไม่แข็งแรงก็มีถมไป
และนี่ก็เป็นชีวิตจริงของมนุษย์

คนมากมายมีรถยนต์ขับ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีเงินมากกว่า
คนเดินข้างถนนขึ้นรถเมล์ เพราะรถยนต์ที่ขับทั้งหลาย
หนี้สินท่วมหัวทั้งนั้น หลายคนทนกินแต่บะหมี่แห้งจนจะขาดสารอาหารตาย 
เพื่อรักษาหน้าว่าข้ามีรถยนต์

แต่หลายคนไม่มีรถยนต์กลับไม่เคยเดือดร้อน มีเงินส่งลูกเต้าเรียน
ไม่เดือดร้อนอะไร มีกินมีใช้อย่างไม่เดือดร้อน
นี่ก็แสดงว่าเปลือกนอกของคนเพียงอย่างเดียววัดอะไรไม่ได้
ต้องดูเปลือกใน ดูเนื้อแท้ ว่าเป็นอย่างไรมากกว่า
เศรษฐีมากมาย ที่ทำตัวเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทองก็มีถมเถไป

พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ให้นึกถึงคนเคยรู้จักอยู่ สองครอบครัว
สองครอบครัวนี้มีบ้านติดกัน แม่ทั้งสองครอบครัวเคยเป็นเพื่อนรัก
หักเหลี่ยมกันมาตลอดทั้งชีวิต ทั้งเรื่องคู่ครอง อาชีพ
จะไม่ยอมลดลาวาศอกกันเสียเลย

สองคนมีลูกสาวเหมือนกัน
วัยเดียวกันอีกด้วย สองสาวถูกแม่ของตนเอง
กรอกความคิดเข้าสมองทุกวัน ว่าคนบ้านนั้นไม่ดี
ชอบดูถูกเหยียดหยามเรา เราต้องทำให้ได้ดีกว่าพวกมัน

ลูกสาวสองคนของเพื่อนบ้านกันนี้ คนนึงชื่อ แดง
อีกคนชื่ออ้อย แม่ของแดงสอนลูกเสมอว่า
จะหาคู่จะมองผู้ชาย มันต้องดูที่อาชีพการงาน
ดูว่ามีรถคันใหญ่ขับหรือไม่ ให้หาผัวคนที่มีรถคันใหญ่ขับจะดี

ส่วนแม่ของอ้อยสอนลูกว่า ลูกผู้หญิงอย่างเรา
อะไรอะไรหน่อยก็มีแต่เสีย เหมือนส้วม ไม่เหม็นมากก็เหม็นน้อย
ทำดีก็อยู่ตัวทำชั่วก็ถูกด่า ดังนั้นเราต้องใช้ชีวิตไม่ประมาท
อยู่ในร่องในรอย อย่านอกรีต ต้องเป็นคนขยัน อดทน หนักเอาเบาสู้
เป็นคนหูหนัก เป็นคนปากหนัก อย่าเที่ยวเร่รักใครง่ายๆ
อย่าเที่ยวให้ท้ายผู้ชาย เพราะถ้าเขาได้เราง่ายเขาจะไม่เห็นค่าของเรา
อย่าเอาเงินมาตัดสิน ให้ดูยาว ๆดูไกลๆ ดูให้ถึงโคตรเหง้าเขา

ชีวิตคู่สำคัญที่สุดคือความรักความเข้าใจ เพราะถ้าขาดสิ่งนี้ไป
วันนึงข้างหน้าเราแก่เฒ่ามา หน้าตาหย่อนยาน ไม่น่ามอง
ถ้าครอบครัวขาดรักขาดความเข้าใจเสียแล้วจะไม่เหลือสายสัมพันธ์อะไรอีกเลย
จะรักคนดี จงมองคนดี  คนขยัน คนมีเหตุผล ใจกว้าง 
เป็นผู้ใหญ่ เสียสละอดทน ใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา
จะรวยหรือจนก็ชั่งมัน เรามาสร้างมาสมกันต่อได้

แดงในแต่ละวันก็แต่งตัวออกไปนั่งขายพวงมาลัยริมทาง
ก็มีโชว์เฟอร์รถ สิบล้อ สิบแปดล้อมาจอดซื้อพวงมาลัยเธอทุกวัน
จนสัมพันธ์ชิดใกล้กลายเป็นความรัก ซิำแดงยังบอกว่า
นี่คิอผู้ชายที่ตรงกับสเป๊กซ์ที่แม่บอกเลยคือมีงานทำ มีรถคันใหญ่ขับ

ส่วนอ้อย ก็ตั้งหน้าตั้งตาร่ำเรียนหนังสือ เช้าไปเรียนเย็นก็กลับบ้าน
ช่วยแม่ทำงานบ้านตามประสา
วันนึงมีรถเก๋งคันงามขับมาจอดหน้าบ้านอ้อย แม่ของอ้อยยืนมองดูก็เห็นชายหนุ่ม
ลงมาเปิดประตูรถให้อ้อย ก้าวขาลงจากรถ
และอ้อยก็พาชายหนุ่มนั้นเข้าไปแนะนำตัวกับแม่
อ้อยบอกว่า เป็นแฟนกันเรียนที่เดียวกัน พ่อแม่ครอบครัวเขาทำกิจการขนส่ง
มีรถบรรทุกอยู่กว่า 40 คัน รับงานขนส่งสินค้าทั่วประเทศ

พอสมควรแก่เวลาชายหนุ่มแฟนอ้อยก็กลับ
ขณะกำลังจะขึ้นรถกลับ รถบรรทุกคันใหญ่ก็วิ่งมาจอดหน้าบ้านแดง ข้างๆบ้านอ้อย
ซักครู่แดงก็เปิดประตู 10 ล้อ ลงจากรถ แถมแนะนำแฟนตัวเองกับอ้อยด้วย
ซักครู่ชายหนุ่มที่ขับรถบรรทุกคันใหญ่เข้ามาก็ลงจากรถ
พอเห็นชายหนุ่มที่กำลังจะขับเก๋งออกไปก็ ร้องทัก
นายครับหวัดดีครับ นี่แดงแฟนผมครับ วันนี้ขอนายหนึ่งวันนะครับ
พาแฟนกับแม่ยายขับรถเที่ยวหน่อย

ชายหนุ่มดังกล่าวก็พยักหน้า
แม่ของแดงได้ยินชายหนุ่มที่มากับลูกสาวตนเอง ยกมือไหว้ร้องทักกับชายหนุ่มที่มา
กับอ้อยลุกสาวคู่ปรับก็รู้สึกไม่พอใจ ออกไปถามชายหนุ่มว่า
แกไปยกมือไหว้พวกนั้นทำไม ชายหนุ่มก็ตอบกลับมา
นั่นลูกชายเถ้าแก่ผมครับ วันนึงก็มาเป็นเถ้าแก่ผมเต็มตัว
ขืนไม่ทักทายมีสิทธิ์ไปฟ้องเถ้าแก่ไล่ผมออกงานสิครับ

นี่คือบทสรุปของคนที่ชอบมองแค่เปลือกนอก
ในโลกนี้ มันไม่มีอะไรที่ได้มาโดยที่ไม่มีเหตุผล
มันมีเหตุมีผลอยู่ในนั้นเสมอตามแต่แรงบุญแรงกรรมของใคร





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น