ยินดีต้อนรับทุกท่านสำหรับคนใจช้ำที่ถูกย่ำยีมาไม่ว่าคุณจะเป็นใครเราคือเพื่อนกัน

วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เก็บไว้ในความทรงจำ


เวลาทุกวินาทีที่มันผ่านเลยไป
มันจะกลายเป็นเพียงอดีตที่สูญเปล่า ถ้าเราไม่เก็บรักษาห้วงเวลานั้นเอาไว้
ทุกช่วงเวลา ทุกช่วงชีวิตสำหรับฉัน และคนใกล้ชิด
ฉันจึงเก็บรักษามันไว้ทุกช่วงตอนของชีวิต 
ไม่ให้มันสูญหายไปตามกาลเวลา
มิเช่นนั้น ช่วงชีวิตที่ผ่านมาก็จะไม่มีค่าน่าจดจำใดๆ
เราก็จะกลายเป็นเพียงสิ่งที่ไม่มีตัวตน
ที่เลือนหายไปตามกาลเวลา
ไม่สามารถบันทึกประวัติศาสตร์ของตนเองไว้ให้ชนรุ่นหลังได้สืบค้นได้
ชีวิตเราก็จะสูญเปล่าสำหรับการเกิดมา

ด้วยเหตุนี้ฉันจึงเก็บทุกความทรงจำที่ผ่านมาเอาไว้
สำหรับตัวฉันเอง สำหรับคนใกล้ชิดใจฉัน
มันจะไม่มีวันเลือนลางจางหายไปตามกาลเวลา

บันทึกของฉัน มันจึงเป็นแง่มุมประวัติศาสตร์ หรืออดีตที่ต้องรักษาไว้
มันมีค่าเสมอสำหรับฉัน ฉันจะเก็บ ฉันจะบันทึกทุกช่วงเวลา
เพื่อวันนึงข้างหน้า ฉันคิดถึงวันเวลาเก่าๆ
ฉันก็จะได้หวนกลับมาเปิดย้อนดู
ภาพแห่งความหลัง นาทีแห่งความทรงจำ
มันจะคงยังอยู่ตลอดไป

สำหรับฉันชีวิตนี้ นอกจากไม่เคยทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง ให้เจ็บช้ำเดียวดายแล้ว
ฉันยังเก็บทุกความทรงจำของทุกคน ที่เดินเข้ามาในช่วงชีวิตของฉัน
ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่ได้รู้จักใคร หรือไม่รู้จักใคร
เพราะทุกความทรงจำ มันล้วนมีความหมายสำหรับฉัน
มันมีเรื่องราวที่ให้ฉันบอกเล่าได้ว่า แค่ไหน อย่างไร
มันมีค่าต่อชีวิตฉัน
ทุกคนที่เดินเข้ามาในชีวิตฉันแต่ละช่วง
ล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันอยู่ได้ มีกำลังใจ
ยืดอายุของฉันออกมาได้จนถึงวันนี้

ฉันจึงอยากเก็บรักษาความทรงจำที่งดงามเอาไว้
และขอบคุณทุกคนที่เดินผ่านเข้ามา และก็ผ่านเลยไป
ฉันไม่เสียใจหรอก
ฉันเพียงอยากบอกว่า ฉันดีใจที่ได้รู้จักพวกคุณ
และฉันจะเก็บความรู้สึกที่ดีนั้นไว้ในความทรงจำของฉันตลอดไป
จนกว่าลมหายใจสุดท้ายของฉันจะสิ้นสุดลง




รักจากใจ พี่เป้าร้อง พี่ก้องทำจ้ะ




วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ความรักไม่มีเส้นแบ่งเวลา


ถ้าเราลองได้รักใครซักคน
มันไม่ง่ายที่จะลบลืมเลือนออกไปเสียจากหัวใจ
ถ้ามันลบง่ายอย่างนั้นก็แสดงว่าใจเราไม่ได้รัก
ความรัก
มันไม่จำเป็นหรอกว่าเขาต้องรักตอบ
แค่ใจเรารัก แค่เราซื่อสัตย์ต่อหัวใจเราก็พอแล้ว
อย่าไปสนว่าเขาจะมองเราหรือคิดกับเราอย่างไร
สำคัญที่สุดคือเราได้รัก

การรักใครซักคนแค่เพียงได้เห็นหน้า
แค่เพียงรู้ว่าเขาอยู่ดีมีสุข เราก็พอใจ สบายใจแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้ทำลงไป
ไม่ได้มุ่งหวังให้เธอรักตอบ
ไม่ได้มุ่งหวังให้เธอรู้สึกดีด้วย

แค่ต้องการสื่อให้เธอรู้ว่าฉันคิดอย่างไรกับเธออยู่
ที่ผ่านมา ปัจจุบัน และอนาคต มันก็จะยังคงเป็นเช่นนั้นตลอดไป
เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อเรามีอันต้องพลัดพรากจากกัน หรือล้มหายตายจากกันไป
ฉันต้องการให้เธอรู้ว่า มีคนที่รักเธอที่สุดในชีวิตนี้แม้เธอจะมองข้าม
มีคนที่แอบรักแอบห่วงใยเธออยู่ทุกเวลา
ยามเธอห่างไกลสายตา ใจฉันก็เป็นทุกข์
ยามเห็นเธอกลับมาจิตใจฉันก็เป็นสุข
นี่แหละรักของฉัน ที่ฉันแค่ต้องการให้เธอรู้

ในยามที่ฉันสิ้นลมหายใจ
เมื่อใดที่เธอไม่มีใคร เธออาจจะเข้ามาตรงนี้
หรือเข้าไปทุกที่ที่มีร่องรอยรักของเรา
แล้วเธอจะได้มีเวลามานั่งย้อน นั่งอ่าน สิ่งที่ฉันทำ ที่เธออาจเรียกว่า พร่ำเพ้อ
ฉันหวังว่า วันนั้นเธอคงจะคิดถึงฉัน ในยามที่โลกนี้ไม่มีฉันแล้ว
แต่ร่องรอยที่ฉันได้สร้างไว้ ได้ทำขึ้นเพื่อเธอ มันจะยังคงอยู่ตรงนี้ตลอดไป
แม้เราสองคนจากกันไกลแล้วก็ตาม

มันจะไม่มีวันเลือนหาย
ดังนั้นคำพูดเหน็บแนม เสียดแทงของเธอ
มันไม่สามารถทำลายสิ่งที่อยู่ในใจที่ฉันมีต่อเธอลงได้
ฉันจะมุ่งมั่นสร้างงาน สร้างเรื่องราวของเรา
ให้อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตนี้ตลอดไป
ยามใดที่เธอคิดถึงฉัน เธอก็แวะเข้ามานะคนดี
ฉันยังจะอยู่ตรงนี้
แม้วันนึงจะไม่มีชีวิตแล้ว
แต่สิ่งที่ฉันได้ทำไว้ เพื่อเธอ เพื่อหัวใจฉันมันจะยังคงอยู่ตลอดไป

ทะเลทรายแม้จะแห้งแล้งสักเพียงใด ยังหาน้ำได้
ฉันไม่เชื่อหรอกว่าหัวใจของคนที่เป็นก้อนเนื้อจะไร้ซึ่งความรู้สึก
และเมื่อใดที่เธอรู้สึกเช่นนั้น ถ้าฉันยังมีชีวิตอยู่
ฉันก็แอบหวังสักครั้งว่า เธอคนเดิมจะกลับมา
หาคนที่รักเธอที่สุด ห่วงเธอที่สุด
และทำทุกสิ่งทุกอย่างที่คนคนนึงจะทำได้  แสดงออกได้ เพื่อเธอ




รอจนกว่าจะรัก สายัณห์ สัญญาขับร้อง พี่ก้องทำ




วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หัวใจบางๆกับเส้นทางที่ยาวไกล




ในเวลาที่เราต้องการใครซักคน
มาอยู่เคียงข้างมาร่วมทางเดิน
จับมือประคองร่วมเดินไปด้วยกันบนเส้นทางชีวิต
จะมีใครสักกี่คนที่อยากร่วมทางเดินไปกับเรา
ในยามที่เราลำบาก สิ้นหวัง ท้อแท้
กำลังใจจากใครซักคนคือสิ่งที่เราต้องการ
แต่ก็หามีไม่
หรือเราออกปากเชิญชวนให้ร่วมทางไปกับเรา
ก็จะอิดออด ตั้งแง่ ถ้าเขามองเห็นว่าทางที่เราจะเดินไปนั้นคงตกระกำลำบาก
มันเป็นธรรมชาติของคน ที่ต้องคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง
คัดสรรความมั่นคงชีวิตให้กับตนเอง

เมื่อเรายื่นมือที่ไร้ความหวังออกไป
ก็เป็นธรรมดา ที่เราจะต้องชักมือกลับคืนมาโดยมีแต่อากาศธาตุ
อย่าโทษเขาเลย เพราะนั่นคือพื้นฐานการตัดสินใจแรกที่มนุษย์ต้องทำ


แต่เมื่อใดที่ฉันแข็งขืนใจตนเอง
ยืนท้าฟ้าท้าดินอย่างมุ่งมั่น ทรนง 
เดินฝ่าฟันที่ยากลำบากนั้นเพียงคนเดียวลำพัง
จนถึงเส้นชัยในที่สุด

ถึงเวลานั้นมันก็เป็นสิทธิของฉันเช่นกันที่จะเลือกว่าจะอยู่กับใคร
เพราะในยามที่ฉันลำบาก ฉันต้องการใครซักคน ก็ไม่มีเสียงตอบรับ
พอฉันเดินฝ่าฟันมาจนประสบความสำเร็จแล้วในที่สุด ฉันก็มีสิทธิเป็นผู้ที่จะเลือก
และมีสิทธิที่จะฉลองความสำเร็จนั้นโดยไม่มีเธอเช่นกัน

การที่มีใครซักคนมาร่วมทางเดินกับเรา
ทั้งที่ไม่เห็นอนาคตข้างหน้า
แต่กลับมีความจริงใจที่จะเดินไปกับเรา
ยินดีที่จะอยู่กับเราทุกสถานการณ์
คนคนนั้นคือคนที่สมควรจะเก็บเอาไว้ในที่ที่ดีสุดของหัวใจ
และคือคนที่เราฝากชีวิตไว้ได้


เส้นทางที่ลำบาก มีอุปสรรค
คือเครื่องมือที่คัดสรรคนเพื่อมาอยู่กับเรา
คนส่วนใหญ่กลัวลำบากทั้งสิ้น ยอมพลีกาย ยอมขายตัว
เพื่อแลกเศษเงิน ก็เพื่อหนีความลำบาก

มันไม่ง่ายที่ใครซักคนเดินมาบอกเราว่า 
เก็บสัมภาระพร้อมเดินทางไปกับเราแล้วทุกเส้นทาง
หากมีคุณก็จงรักษาเธอคนนั้นเอาไว้ให้ดีที่สุด
เพราะเธอมีค่ายิ่งกว่าอัญมณีชิ้นใดๆในโลกนี้ที่ไม่สามารถหาค่าได้

แต่ถ้าไม่มีใคร ก็จงตั้งปณิธาน สานต่ออุดมการณ์ เดินมันต่อไปให้ถึงเป้าหมาย
เมื่อสู่เส้นชัย มีรางวัลมากมายรอเราอยู่ และอย่ามานั่งเสียใจกับชะตาชีวิต
ให้เสียเวลาอยู่เลย จงก้าวเดินต่อไปเพื่ออนาคตของเราเอง





วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ชะตารักเรา





ในช่วงชีวิตเราที่ผ่านมา
มีมากมายคนที่มารักชอบพอ หมายปอง
แต่ใจของเราก็ไม่เคยจะเหลียวมองใฝ่ปองรัก
เพราะหัวใจของเรามันยังปักใจรักมั่นอยู่เพียงคนคนเดียว
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะช่วงเวลาใดไม่สามารถ
หักใจออกจากเธอได้เลย


คนที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่ดี
ทุกคนล้วนเป็นคนดีน่ารัก น่าใคร่
แต่เรื่องของหัวใจมันแปลก
ถ้าไม่รักมันก็คือไม่รัก
มันไม่มีเหตุผลมันอธิบายไม่ได้


หรืออีกอย่างอาจเป็นเพราะ
เรายึดติดอยู่กับอดีตมากมาย
จนไม่ยอมเปิดใจให้ใครเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา
หรือ คนที่มารักไม่สามารถ ทำให้เราลืมเลือนอดีตที่ดีนั้นลงได้
หรืออาจเพราะเรา กลัว ขยาด ไม่มั่นใจตนเอง หรือคนที่มาชอบพอก็ได้เช่นกัน

แต่เชื่อไหมล่ะ

วันดีคืนดี เจอผู้หญิงธรรมดาๆ หน้าตาบ้านๆพื้นๆ เดินผ่านเข้ามาในสายตา
หัวใจของเรามันกลับสั่งให้สายตาหันไปมอง และจับจ้องเธอเอาไว้
ยังกับว่า เกรงว่าเธอจะเลือนหายไปจากสายตาและความทรงจำ

ตลอดระยะเวลาที่หัวใจด้านชา ไม่รู้สึกรู้สาอีกแล้วกับคำว่ารัก
กลับเฝ้าเรียกร้อง ห่วงใย อยากดูแล อยากเห็นหน้า อยากอยู่ใกล้ชิดเธอคนนั้นตลอดไป


หัวใจตรมๆ
หัวใจที่เคยหมองเศร้า
มันกลับฟื้นคืนชีวิตชีวา
มันมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าเธอ ได้อยู่ใกล้ชิดเธอ ได้พูดคุยกับเธอ
มันเป็นความสุขที่เคยได้ เคยมี เหมือนเมื่อครั้งในอดีต
มันทำให้เรารู้ว่า เรายังมีชีวิต เรายังมีหัวใจอยู่

แต่ก็อีกนั่นแหละ
พอเราเริ่มรัก หลงรัก ทุ่มเทใจ มอบใจ
ยกเธอเข้ามาสู่ส่วนที่ดีที่สุดของหัวใจ
เธอกลับ เหมือนจะเดินหนีออกไปจากเรา
ยิ่งเราเอื้อมมือจะไขว่คว้าเพื่อโน้มดึงเธอเข้ามาสู่อ้อมกอด
เธอกลับไม่มีตัวตน เธอพยายามเดินหนีออกจากความทรงจำของเรา
จนห่างไกลออกไปทุกที

ทำไมชีวิตรักมันตรอมตรมอย่างนี้
เมื่อไม่สนใจมันกลับพุ่งเข้าหา
แต่พอเวลาจะไขว่คว้า มันกลับเลือนลางหายไป
ช่วงชีวิตของคนคนนึง
มันไม่ยากหรอกที่จะมีใครมารัก
แต่มันยากนัก ที่เราจะรักใคร และใครคนนั้นก็รักเรา
และมันกลับยากยิ่งกว่าเมื่อเรารู้ว่าใช่
แต่พอเอื้อมมือยื่นออกไป เรากลับได้แต่สายลม
และความทรงจำที่เจ็บปวดและขื่นขม
เหลือไว้ให้เป็นรอยแผลในใจที่ติดตรึงคาไว้
ในหัวใจเราตราบนิรันดร
มันชั่งเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน




ครวญถึงน้อง พี่เป้าร้อง พี่ก้องทำ



วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เพราะใจมีรัก


ถ้าหัวใจใครเคยมีความรัก
ก็จะรู้ว่า มันมีทั้งสุขและทุกข์
สุขเมื่อยามได้เห็นหน้า ได้สนทนาปราศัย
ได้หยอกเย้า ได้พูดจาภาษาใจ มันก็ทำให้ชีวิตมีพลัง

แต่เมื่อห่างไกลกัน ห่างไกลตา
ก้จะรู้ว่า โลกนี้มันชั่งว้าเหว่าเอกา เดียวดาย
มีชีวิตแต่ก็ขาดชีวา ขาดสีสัน มีร่างกาย แต่ก็ดูจะไร้ซึ่งหัวใจ

พี่จำได้เสมอ
เมื่อสองเราใกล้ชิดกัน
พี่ได้ยินแม้แต่เสียงหายใจของเธอ จังหวะหายใจของเธอ
พี่ยังไม่เคยลืม ไอรักอุ่นจากตัวเธอ ที่พี่สัมผัสได้ตลอดเวลา
เมื่อคราอยู่ใกล้ชิดเธอ

เธอจงรู้ไว้ว่า
เวลา และความห่างเหิน มันมิอาจ พรากเธอไปจากหัวใจของพี่ได้
ยิ่งห่างไกลตา หัวใจของพี่ยิ่งคิดถึง ยิ่งชิดใกล้
ทุกเสี้ยวเวลา ที่ผ่านเข้าออกทุกลมหายใจ
ไม่เคยเลย ที่มันไม่มีเธอ

ยามห่างไกลกันเช่นนี้
พี่อยากบอกให้เธอรู้ว่า ทุกเช้าค่ำ ทุกเวลา
พี่โหยหา คิดถึงแต่เธอ

บางครั้งระหว่างเรา
มันเหมือนมีอะไรบางๆมาขวางกั้น
บางครั้งมันเหมือนกับว่า เราอยู่ชิดเคียงกันตลอดเวลา


.............................................................
มุ่งมั่น

แม้เหินห่าง แต่ใจ พี่ยังใกล้
แม้ห่างไกล  แต่ใจ พี่คิดถึง
แม้เหนื่อยล้า สิ้นหวัง ยังรำพึง
ห่วงคนึง คิดถึง แต่คนดี
ไม่มีหวัง พี่ยังหวัง อดทนรอ
ขอสานต่อ รักไป อยู่อย่างนี้
หวังเพียงว่า ซักวัน ฟ้าปราณี
มอบหัวใจ คนดี ให้พี่ชาย
แม้หมดทาง จะสร้างทาง  ไปจนได้
จะไม่ให้  ทางรัก  นี้สูญหาย
ขอรักเดียว เพียงเธอ จนวันตาย
ไม่ได้กาย ขอใจ เราชิดกัน



ที่รักเธออยู่ไหน พี่เป้าร้อง พี่ก้องทำ มอบให้เธอคนเดียวนะจ๊ะ





วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เธอรู้ไหมฉันเหงา


กำลังใจ คือสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์เรา
ทั้งกำลังใจจากคนรอบข้าง จากตัวเอง
ล้วนทำให้ชีวิตยังมีค่า มีความหมาย อยากอยู่ต่อ

เมื่อใดชีวิตขาดกำลังใจ
มันก็คือสิ้นหวัง เมื่อสิ้นหวัง ก็จะท้อแท้ เบื่อหน่ายชีวิต
คนเราเพราะมีความหวัง มีความฝัน มันจึงทำให้เราอยากอยู่ต่อ อยากสู้ต่อไป
เมื่อเราไม่มีสิ่งนี้แล้ว มันก็เป็นเรื่องยาก ที่จะทำให้เราอยากไปต่อ 
เพราะไม่รู้เราจะไปต่อเพื่อใคร

ชีวิตที่อยู่อย่างสิ้นหวัง
เป็นชีวิตที่น่าเป็นห่วง เพราะคนที่สิ้นหวัง
จะปลีกตัวเองออกจากสังคม ไม่อยากคบหาสมาคมกับใคร
ในที่สุดก็จะนำไปสู่การคิดสั้น

กำลังใจคือพลังมหาศาล และอัศจรรย์
ที่เพียงคนรอบข้างพูดและเอ่ยขึ้นมาอย่างจริงใจ
ก็จะทำให้คนที่สิ้นหวังนั้น มีพลัง มีแรงบันดารใจที่อยากจะสู้

....................................................................................

เหงา

คนมากมาย  แต่ทำไม  ใจฉันเหงา
นั่งกอดเข่า เฝ้าคอย อย่างสิ้นหวัง
อยากได้ยิน  แรงใจ  เสียงดังดัง
ก็สิ้นหวัง  ไม่มี    แม้ชายตา
คนมากมาย  แต่ทำไม  ใจฉันเศร้า
ในหัวใจ  ฉันเหงา  จนอ่อนล้า
คอยนับคืน นับวัน  นับเวลา
อยากเห็นหน้า แต่เธอ นั้นผู้เดียว
คนมากมาย  ผ่านไป  ก็ผ่านมา
แม้มากหน้า  แต่ไร้ คนข้องเกี่ยว
ฉันเฝ้าคอย  คอยเธอ  เพียงผู้เดียว
แปล็บใจเสียว  ไม่เห็น เงาเธอมา
ที่ศาลา  คนเศร้า  ดูเปล่าเปลี่ยว
ฉันเฝ้าคอย  เฝ้าเหลียว  อยากเห็นหน้า
เฝ้าก้มมอง  ดูเข็ม นาฬิกา
ถึงเวลา  ยังไร้ เงาของเธอ
ที่รักจ๋า รู้มั๊ย  ใครคนหนึ่ง
นั่งรำพึง  รำพัน จนฝันเพ้อ
ทุกเย็นย่ำ  พร่ำหนัก  ว่ารักเธอ
มานั่งเหม่อ คอยเธอ  ที่ศาลา
นี่สองทุ่ม  เลยผ่าน แม่หวานใจ
เธอไปอยู่  ที่ไหน กับใครหนา
คงเริงรื่น  ชื่นฉ่ำ ร่ำสุรา
คงเริงร่า  ระริกรื่น สดชื่นใจ
เธอรู้ไหม มีใคร อยู่คนหนึ่ง
รำพึงถึง  ว่าเธอ  นั่นอยู่ไหน
นี่ดึกแล้ว แก้วตา อย่าห่างไกล
กลับเร็วไว  กลับคืน  มาบ้านเรา
พี่คอยเธอ  เพ้อหา  น้ำตาตก
ในหัวอก  เจ็บช้ำ สุดแสนเหงา
ยุงก็ชุม  รุมกัด ทั้งปัดเกา
ยังคอยเจ้า เฝ้าคอย  ที่ศาลา
โอ้คนดี  ก่อนนี้ เคยเคียงข้าง
เจอรายทาง  เธอก็  เดินเข้าหา
จะดึกดื่น  แค่ไหน  ไม่นำพา
ในบ่อปลา ป่ากล้วย ไปด้วยกัน
มีปัญหา น้อยใหญ่  สารพัด
เธอไม่ขัด  เขินใจ ไปหาฉัน
เรื่องมากมาย  เปิดใจ  มาคุยกัน
เธอรู้ฉัน  ฉันรู้เธอ เสมอใจ
มาบัดนี้ คนดี  เจ้าหนีหน้า
รู้ไหมว่า  อุรา พี่หมองไหม้
ยามค่ำคืน  เสียงสะอื้น  จากหัวใจ
ก็เพราะมัน  ร้องไห้  กินน้ำตา
เธอจะอยู่  กับใคร  ฉันไม่คิด
เธอรู้ถูก  รู้ผิด พี่คิดว่า
เพียงอยากให้  เธอรู้  กัลยา
พี่ห่วงเธอ หนักหนา น้ำตาริน



พี่เป้าร้อง พี่ก้องทำ และมอบให้เธอจ้ะคนดี







วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เวลาที่ผ่านไป


เส้นทางชีวิต
บางครั้งมันก็แปลก และยากที่จะอธิบาย
หลายครั้งที่เรามีสิ่งดีๆอยู่ในมือ แต่เรากลับไปมองหา
และไล่คว้า เอาสิ่งที่ไม่มีค่าใดๆและไร้สาระมาให้ชีวิตตนเองวุ่นวายเสียอย่างนั้น

ในเส้นทางชีวิตเราแต่ละคน
ถ้าเราจะนั่งลงตรองดูให้ดีซักหน่อย
เราก็จะพบว่ามันไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียว
ภายใต้ชีวิตที่เราคิดว่าล้มเหลว แย่ มันก็มีสิ่งดีๆผ่านเข้ามาในชีวิตอยู่เสมอ
มันไม่ได้แย่หรือเลวร้ายเสียทีเดียว

แต่สิ่งที่เลวร้ายคือ จิตใตของเรานี่เอง
เมื่อเวลาเราต้องการสิ่งใด อยากได้สิ่งใด เราจะจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น
ทุ่มเวลาให้กับสิ่งนั้น ไล่คว้าเอาแต่สิ่งนั้น จนเราไม่มีเวลาหันไปมองสิ่งอื่น
ที่อยู่รอบๆข้างเราเลย

ต่อเมื่อเราสูญเสียสิ่งนั้นไป เราจึงรู้ว่ามันมีค่า
ทั้งที่ตอนที่สิ่งนั้นอยู่กับเรา เรากลับมองข้ามไม่เห็นค่า ไม่ให้ความสำคัญ
พอเสียไป เราจึงรู้ว่า ได้เสียสิ่งที่ดีที่สุดไปแล้ว หลุดมือเราไปแล้ว

การที่เราลุ่มหลงสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรืออยากเอาชนะสิ่งหนึ่งสิ่งใด
เรามักจะมองข้ามเหตุผล และความจริง รวมถึงเสียงตักเตือนจากคนรอบข้างด้วย

เราพลาดโอกาสดีๆ เราพลาดโอกาสสำคัญๆไป หลายครั้งก็เพราะจิตใจเรานี่เอง
เราเจ็บอย่างแสนสา หลายครั้งก็มาจากใจเรานี่เองเช่นกัน

ความรักมันจึงเป็นสิ่งที่อธิบายยาก
ชีวิตคู่ก็เช่นกัน
สิ่งที่เราเลือก เราอยากได้ เรามักไม่ได้
แต่สิ่งที่เราได้ เรามักไม่ได้เลือก
แต่บางครั้ง สิ่งดีๆเราไม่ต้องเสียเวลาไล่ตาม มาหาเราถึงที่ เรากลับมองข้าม
และปล่อยโอกาสนั้นไป

นี่อาจเป็นเรื่องของชะตา
ชะตาที่คนเราร่วมสร้างกันมา ทั้งแง่ดีหรือไม่ดีแต่ปางก่อน
กรรมถึงกัน บาปถึงกัน บุญถึงกัน
ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้มาพบเจอกัน
และร่วมกันชดใช้

ทั้งที่เรารู้ว่ามันไม่ดี แต่ทำไม มันกับอยู่กับเรา
ทั้งที่รู้ว่านั่นคือสิ่งดีที่สุดเท่าที่ชีวิตเราเคยเจอ แต่ทำไมไม่อยู่กับเรา

วงโคจรชีวิตของแต่ละคน
มันยากมากที่จะมีเส้นโคจรมาบรรจบ พบเจอกัน
เพราะเราต่างมีวิถีชีวิตมีเส้นทางโคจรของตัวเองในแต่ละวัน
มันยากมากที่เราจะเบี่ยงเส้นทางโคจรของตนเอง
ในแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี เราก็โคจรอยู่ในเส้นทางเดียวเส้นทางเดิมนั้น
เมื่อเรามีโอกาสพบเจอคนที่บังเอิญหลงมา หรืออาจเป็นชะตาที่ผลักมาหาเรา และ
ยังให้เราได้มีเวลาร่วมทางกันไปจนมากพอที่จะรู้ว่า เราแต่ละคนเป็นอย่างไร
แต่สุดท้ายเราก็หันหลังให้กัน ทั้งที่เรายังมีความรู้สึกที่ดีให้กัน

ของใกล้มือ ของใกล้ตา เรามักไม่เห็นความสำคัญ
ทั้งนี้ก็เพราะเราสามารถหยิบจับใช้สอยได้อยู่ตลอดเวลานั้นเอง
เราจึงไม่เห็นความสำคัญ
ต่อเมื่อวันนึงเราต้องการใช้สอยของสิ่งนั้นอีก แต่มันไม่อยู่แล้ว
เราจึงรู้ค่าว่า ที่ชีวิตเราง่ายขึ้น ก็เพราะสิ่งที่หายไปนั้น
พอไม่มีสิ่งนั้น ชีวิตเราก็เริ่มไม่ปกติทันที

ขอขอบคุณสิ่งดีๆที่พวกเธอมอบให้
ขอขอบคุณช่วงเวลาทีงดงามที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตฉัน
ที่พวกเธอเดินเข้ามาและมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ฉัน
ขอขอบคุณที่ยังรักกัน ดีต่อกันเสมอมา
ขอขอบคุณความคิดถึง ความห่วงใย ที่มีให้
ขอบคุณพวกคุณมากมายที่ทำให้ชีวิตฉันมันดูมีค่า มีราคาขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่ง
ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณจากหัวใจจริงฉันจะไม่มีวันลืมช่วงเวลานั้นที่ฉันเคยได้ เคยมี
ขอบคุณทุกคนขอบคุณทุกความรู้สึก
ขอบคุณมาก





ขอบคุณคุณริญ





ขอบคุณศรีฯ


วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เกิดแก่เจ็บตายคืองานศิลปะ




การเกิด และการตาย
คือความสมดุลที่ธรรมชาติเป็นผู้กำหนดขึ้น
ถ้าการเกิดและการตายไม่สมดุลกัน สิ่งมีชีวิตก็จะล้นโลก
หรือหมดไปจากโลก

ดังนั้นการเกิดหรือการตาย
มันจึงเปรียบดั่งเป็นงานศิลป์ที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์
ถ้าครอบครัวหนึ่งมีสมาชิกในครอบครัว 4 คน 
และเพียงพอกับการอยู่อาศัยในครอบครัวนั้นพอดี
แต่ถ้าไม่มีการตายเลย ครอบครัวนี้ก็จะแออัด หนาแน่นด้วยจำนวนสมาชิกที่มากขึ้น
มีคนหลายรุ่นหลายชั่วอายุคนอาศัยอยู่ด้วยกัน

จะมีปัญหาในการปรับตัวเข้าหากัน
สมาชิกหลายรุ่น มีรสนิยมที่แตกต่างตามแต่ยุคสมัยของตนเอง
ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นในครอบครัว

แต่ถ้าครอบครัวนี้ ไม่มีอัตราการเกิด ไม่มีสมาชิกใหม่ในครอบครัวเลย
ครอบครัวนี้ก็นับวันจะมีพื้นที่ว่างมากขึ้น มีช่องว่าทางใจ ช่องว่างทางสังคม
มีรอยแยกที่เกิดจากความว้าเหว่ เดียวดายเพิ่มมากขึ้น

นับวันสมาชิกในครอบครัวเริ่มล้มหายตายจากไป
แต่ไม่มีสมาชิกใหม่เกิดมาแทนที่ ในที่สุดครอบครัวนี้ก็จะล้มสลายลงโดยตัวเอง
การเกิด การตาย จึงเป็นงานศิลปะที่ธรรมชาติเป็นคนปั้นแต่งขึ้นอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ถ้าเราตายไปแล้ว แต่เรากลับไม่สูญเสียความทรงจำหลายๆชาติ
ตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ หรือเรียกว่าระลึกชาติได้

เมื่อเราเกิดมาใหม่อีกครั้ง
ความทรงจำชาติที่แล้ว ก็จะกลับมาทำลาย มาหลอกหลอนเรา ไม่มีที่สิ้นสุด
เช่นชาติก่อน เราเคยถูก นายดำ หรือนางแดง
กระทำกับเราไว้อย่างไร เมื่อเราตายไป
ความทรงจำนั้นสมควรที่จะถูกลบทิ้งไป
เมื่อเรากลับมาเกิดใหม่เราจะได้จำภาพอันเจ็บปวดนั้นไม่ได้ เราก็ไม่ผูกใจเจ็บ
แต่ตรงกันข้าม
เมื่อเราเกิดมาชาติใหม่
เรากลับยังมีความทรงจำเดิมเหลืออยู่ 
โดยที่นายดำ นางแดงก็ยังมีชีวิตอยู่ใกล้ๆเรา
เมื่อเราโตขึ้น เห็นหน้านายดำนางแดงทีไร
ก็เหมือนพบเห็นศัตรูอยู่ตรงหน้า และยั้งตนเองไม่ได้ กลับมาเอาคืนนายดำนางแดง
ทั้งที่นายดำนางแดงไม่รู้ตัวว่าเรื่องอะไร

แต่เรากลับบอกว่าเป็นความผิดชาติที่แล้ว
มันก็ไม่ยุติธรรม อย่างนี้ สังคมโลกก็ไม่สงบสุข 
เพราะจะมีแต่คนที่เกิดมาแล้วจำอดีตตนเองได้หมด
และแทนที่จะมาตั้งใจเสาะหาความก้าวหน้าให้ชีวิต ก็จะจมอยู่กับอดีตเมื่อชาติก่อน
แล้วจับอาวุธเข้าห้ำหั่นกันในเรื่องที่เป็นอดีตชาติไปแล้ว

ดังนั้น เมื่อเราดับสิ้นชีวิตลงไปในชาตินี้ 
ยุติธรรมแล้วที่ความทรงจำเราต้องดับสูญไปด้วย
และเป็นเราตัวตนคนใหม่ ภพใหม่
ไม่ควรไปตามไล่ล่าล้างผลาญกันอีก ปล่อยให้กรรมทำหน้าที่ของมันไป

นี่จึงเป็นธรรมที่ธรรมชาติกำหนดขึ้นไว้อีกเช่นกัน
เพื่อให้สังคมมันน่าอยู่ มันอยู่อาศัยได้ แทนที่จะมีแต่ผู้เกิดมาแก้แค้น

เมื่อเรามองเห็นเส้นทางชีวิตอย่างนี้แล้ว
ความตายจึงเป็นสิ่งที่ไม่น่ากลัว
และความตายก็ควรนำความทรงจำเก่าทิ้งไปด้วยเช่นกันเพื่อให้ชีวิตใหม่
กับสิ่งใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้นั่นเอง






วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หลงทางจนเสียเวลา





บางคนรู้แค่ เลข 1-9
 ก็คิดว่าตัวเองรู้มากแล้ว ก็คิดเองว่าข้านี่แหละแน่ที่สุดในแผ่นดิน
 แต่บางคนกำลังคิดค้นตัวเลขใหม่ขึ้นมา ก็คือ เลข 0 
คนที่รู้เลข 1-9 พากันนั่งหัวเราะ เพราะต่างชี้ว่าเลข 0 มันไม่มีค่า
แต่เมื่อคนคิดค้นเลข 0อธิบายและแสดงวิธีใช้ 
ทุกคนจึงเห็นว่า เลข 0 คือเลขอัศจรรย์ที่ ทำให้จำนวนนับกลายเป็น อินฟินิตี้
 ไม่มีที่สิ้นสุด เพียงแค่เติมเลข 0 ใส่ข้างหลังเลขตัวอื่นเท่านั้น ก็มีค่าไม่มีที่สิ้นสุด 
และสามารถ แบ่งทอนลงได้ ด้วยเลข 0 เช่นกัน
พวกที่คิดว่าตัวเองฉลาดรู้หลายเลขมากกว่าจึงยอมจำนนว่าแท้จริงตนเองยังโง่อีกเยอะ
 เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าคนรู้ แม้จะรู้มาก ก็รู้จากที่คนอื่นสร้างขึ้น 
มันสู้คนที่รู้น้อย แต่รู้จากการคิดค้นสร้างขึ้นมาเองไม่ได้

บางครั้ง
 เราคิดว่าสิ่งนี้ใช่ แต่มันก็ไม่ใช่ 
บางครั้งเราคิดว่าสิ่งนี้ควร สุดท้ายมันก็ไม่ควร 
บางครั้งเราคิดว่าสายตาเราถูกต้องที่สุด แต่บางครั้งมันก็ไม่ใช่เช่นกัน

หลายๆครั้งที่เราต้องเสียเวลา ไล่ตาม ไล่คว้าสิ่งที่เราคิดว่า ควร และมันใช่
โดยลืมมองดูสายตาคนอื่นที่อยู่รอบข้างเรา ที่คอยจับจ้อง มองดูเราตลอด 
อยู่ห่างๆ แต่ไม่กล้าเผยตัวออกมา

ต่อเมื่อวันนึง เรานั่งร้องไห้
 เราแอบมองเห็นว่าคนรอบข้างเราคนนั้นแอบร้องไห้ด้วย 
บางครั้งเราสะดุดทำท่าจะล้มลง 
เธอกลับตกใจเหมือนจะล้มตามเรา หรือคอยดึงเราขึ้น

คนธรรมดา
 ที่ไม่เคยอยู่ในสายตาเราเลย
 แต่กลับเป็นคนที่เราเห็นหน้าเธอทุกครั้งที่เรามีปัญหา 
โทรศัพท์มาคอยถามไถ่ สุข ทุกข์ อย่างไร 
ได้ขนมซักชิ้น ผลไม้ซักลูก เธอก็มาถึงเราตลอด

เวลานี้ ฉันเริ่มเข้าใจว่า ใคร ควร ใครไม่ควรที่จะใช้ชีวิตอยู่ข้างเราตลอดไป
ถึงแม้มันอาจไม่ได้อยู่ด้วยกัน ร่วมหอเคียงห้อง
 แต่ทุกครั้งที่ลืมตา เราก็มีกันเสมอมา 
ฉันค้นพบ และมองเห็นเธอแล้ว

ขอโทษที่พี่เสียเวลาตั้งมากมาย เพื่อไปไล่คว้าเอาขี้มาใส่มือให้เหม็นติดมือ 
บัดนี้ ประตูใจพี่เปิดไว้เพื่อเธอเดินเข้ามา ถามไถ่ สารทุกข์ สุกดิบเสมอ


หนอนในบ่อขี้ ย่อมไม่มีทางรังเกียจกลิ่นและรสชาติของขี้ไปได้
แค่เพียงมันอ้าปาก ขี้มากมายก็ไหลเข้าท้องของมันแล้ว

แม้จะมีเทวดา ไปบอกมันว่า ภพภูมิที่หนอนอยู่ มันไม่ควรอยู่ และจะพาไปอยู่วิมาน
แต่หนอนกลับบอกว่า ไม่มีที่ไหนดีกว่าที่นี่อีกแล้ว 
เป็นเทวดา เวลาจะกินยังต้องเสียเวลานึกนึกจึงจะอิ่มทิพย์
 เป็นหนอนในบ่อขี้ แค่อ้าปาก ขี้ก็เต็มท้องแล้ว

เมื่อสิ่งมีชีวิต อยู่กับสิ่งใดเป็นเวลานานๆ และทำสิ่งนั้นเป็นเวลานานๆ สุดท้าย
 สิ่งมีชีวิตนั้น ก็จะชินกับมันจนเป็นเรื่องธรรมดา และสูญเสียความสามารถในการแยกแยะ
 ดีชั่ว ควร ไม่ควร ออกจากกันได้ อยู่กับขี้ จนไม่รู้สึกเหม็นกลิ่นขี้ 
อยู่กับคำพูดที่หยาบกร้าน จนรู้สึกธรรมดา 
วันนึงเมื่อเห็นสิ่งที่แตกต่างจากที่ตัวเองเป็นอยู่
ก็คิดว่า นั่นคือสิ่งผิด 
มนุษย์ย่อมเป็นไปตามกรรม 
เมื่อเราได้ทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว 
พูดในสิ่งที่ควรพูดแล้ว
 ก็จงอย่าเสียใจที่จะเดินจากไป 
เพราะเราได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว
ถึงเวลาที่เราจะหันวงโคจรใหม่และเลี้ยวกลับไปหาเธอคนนั้น
คนที่ไม่เคยได้แม้แต่ความห่วงใย คิดถึง สายตาที่เป็นห่วงจากฉันเลย
แต่เธอกลับมีทุกสิ่งทุกอย่างให้กับฉัน

ทุกเส้นทางใจของพี่ นับแต่วันนี้จะไหลไปหาเธอ
และจะหยุดละเมอหาขี้เสียแต่วันนี้




วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเดินทางที่ถูกต้อง



เคยไหม ตอนที่เราเป็นเด็ก
เราจะมองเห็นต้นไม้ และภูเขา มันชั่งดูสูงมาก น่ากลัว
แต่เมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ เรากลับไปตรงนั้นอีกที
ทำไมเรารู้สึกว่า ต้นไม้มันเตี้ยลง มันเล็กลง ทั้งที่มันคงเดิม
ภูเขามันก็ดูเล็กลง ไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว

นั่นก็เพราะมุมมองสายตาของเรา ที่มองจากส่วนสูงที่เรามีตอนนั้น
มันทำให้ขนาดสิ่งของที่เรามองเห็นมีขนาดใหญ่โต จนน่ากลัว

เช่นเดียวกับระบบความคิด
สิ่งใดที่เราไม่รู้ ไม่เห็นมาก่อน หรือไม่มีประสบการณ์
ไม่มีฐานความรู้ฐานข้อมูลมาก่อน เราก็จะกลัวมัน หรือไม่แน่ใจ
หรือถ้าเราเคยรู้มาก่อน แต่รู้ในแง่มุมที่ไม่ดี เราก็จะยิ่งกลัวมันขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ก็เพราะความทรงจำเรายังจดจำภาพไม่ดีต่างๆเหล่านั้นเอาไว้
เราก็จะจำฝังใจในภาพเลวร้ายเหล่านั้น

แต่เมื่อวันหนึ่ง เราเปิดใจให้มัน เปิดใจเพื่อที่จะศึกษาหาความรู้จากมัน
ว่าทำไม คราวนั้นเราจึงกลัว เราพลาดตรงไหน อะไร
เมื่อเราเปิดใจเช่นนี้ เราก็จะไม่กลัวมันอีกต่อไป
และเราก็จะได้ความรู้ใหม่ๆจากมันด้วย

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ มีทั้งดีและไม่ดีอยู่ในตัวเอง
มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะจดจำและเลือกรับเอามุมมองใดไปใช้
ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นบทเรียนให้เราได้หมดทั้งสิ้นทั้งแง่บวกหรือแง่ลบ

มันขึ้นอยู่กับว่า เรากล้าพอที่จะเปิดใจรับมันหรือไม่
หรือเรากล้าพอที่จะเดินย้อนกลับไปทบทวนดูมันอีกครั้งหรือไม่
ให้เหมือนกับที่เรากล้าที่จะเดินไปดู ต้นไม้ใหญ่ ภูเขาสูง ที่เราเคยกลัวในวัยเด็กนั่นเอง
เมื่อเราเดินกลับไปดูอีกครั้ง เราก็พบว่า ที่เรากลัว แท้จริง ก็เพราะใจเรายังไม่พร้อม
เท่านั้นเองที่จะมองอะไร คิดอะไรที่มีขนาด ใหญ่กว่า สายตา 
และความรับผิดชอบของเราของเราในวัยนั้นได้

ทั้งที่แท้จริงมันไม่ได้เลวร้ายเลย
มันก็เป็นของมันอย่างนั้น อยู่อย่างนั้น
เราเองต่างหากที่ไม่พร้อม เราจึงบอกว่ามันเลวร้าย เราจึงกลัวมัน

เมื่อใดที่ใจเราพร้อม
เราก็จงกลับมาคิดทบทวน เรื่องราวต่างๆได้ว่าแท้จริง
เราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรากลัวด้วย
หันมามองมัน แล้วเดินข้ามมันไป
หรืออยู่กับมันต่อไป
ด้วยความกลัว สงสัย เจ็บปวดต่อไป จนตาย
โดยที่ไม่คิดจะหาทางแก้ไขเลย

จำไว้ว่า ไม่มีคำว่าสาย
สำหรับการเริ่มต้นที่ถูกต้อง
ทันทีที่เราเริ่มต้นใหม่ นั่นก็แสดงว่า เราพร้อมแล้วทั้งกายและใจ
ที่จะเดินไปในแนวทางที่ถูกต้องอีกครั้ง

ความจริงมันเจ็บปวดเสมอ
แต่มันก็คือความจริงที่เราหลบมันไม่ได้
ดังนั้นเราต้องอยู่กับมัน ยอมรับมัน
เพราะนี่คือโลก
ที่ทุกอย่างเรา่ไม่มีทางเดินหนีสิ่งที่เราเคยสร้างไว้ได้
เพราะมันคือความจริง
ความจริงที่เราต้องยอมรับมัน



ดังนั้นจงอย่ากลัวความจริง

เพราะเราไม่มีทางที่เราจะวิ่งและหลบหนีมันไปที่ไหนได้

ไม่มีที่ที่จะให้เราหลบหรือแอบซ่อนมัน 
แม้แต่ในหลุมฝังศพก็ไม่สามารถซ่อนความจริงเอาไว้ได้






วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สายใยรัก


เส้นทางรัก

ความรัก มันเป็นเพียง สายใยบางๆ ที่พร้อมจะขาดวิ่นลงได้ทุกเวลา
สิ่งเดียวที่จะทำให้สายใยรักนี่อยู่ต่อไปได้ก็คือ ความเข้าใจซึ่งกันและกัน
ความไว้ใจซึ่งกันและกัน
เมื่อใดก็ตามที่มีแรงผลักแรงเหวี่ยงออกไปจากสายใยนี้ข้างใดข้างหนึ่ง
มันก็พร้อมที่จะขาดลงตลอดเวลาและหลุดลอยไปในอากาศ
โดยไม่มีวันหวนคืนมายังจุดเดิม หรือคงสภาพเดิมได้อีก

ความรักมันจะแตกต่างจากความใคร่
ความรักไม่จำเป็นต้องมีความใคร่ ก็ยังรักกันได้
ในทางตรงกันข้าม
คนเราสามารถจะมีความใคร่โดยไม่ต้องมีความรักก็ได้

การที่หนุ่มสาว ชายหญิง มีความใคร่ หรือเสพสมกัน
ไม่ได้หมายความว่า เขารักกัน
มีคนมากมายที่นอนด้วยกัน แต่ไม่ได้รักกัน

การเป็นสามีภรรยากัน ไม่ได้หมายความว่า ได้นอนด้วยกันมาแล้ว
เพราะมิเช่นนั้น มีหลายคนที่นอนด้วยกันก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน
ทั้งนี้ก็เพราะ ขาด สายใยแห่งรักนั่นเอง

อาทิหลายคนไปใช้บริการของสถานบริการทางเพศ
แม้สองคนจะได้เสพสมกันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นสามีภรรยากัน
ทั้งนี้ก็เพราะ มันขาดสายใยรักเป็นตัวชักนำไป
หากแต่เป็นเงิน เป็นเพียงการซื้อขาย แลกเปลี่ยน ไม่ใช่รัก

ดังนั้น รักจึงมีคุณค่าที่สูงส่ง
ผู้หญิงที่ ชายรัก นั่นก็หมายถึง อยากได้ไปเป็นคู่ชีวิต
เป็นภรรยา เป็นแม่ให้ลูก เป็นคนในครอบครัว 
ไปร่วมสร้างครอบครัวใหม่ สร้างอนาคตร่วมกัน
เช่นเดียวกันกับ ชายที่หญิงรัก หญิงก็ต้องการสิ่งนี้เช่นกัน

รักในความหมายนี้ จึงทรงคุณค่า
ซื้อหาไม่ได้ด้วยเงิน แต่ใช้ใจแลกใจ
เพื่อจะให้ได้มาซึ่งคู่ร่วมเส้นทางชีวิต

ยุคสมัยนี้ไม่บูชารัก แต่บูชาเงิน
ใครใช้เงินก็สามารถครอบครองทุกอย่างได้เช่น
ลงทุนดาวน์รถให้ เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวแล้ว
ลงทุนดาวน์บ้านให้ ซื้อโทรศัพท์ดังๆให้
ใช้เงินไม่กี่หมื่นกี่แสน ก็ซื้อคนมาได้ทั้งคน และเป็นทาสเงินตลอดไป

เช่น ดาวน์รถให้
ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่มีปัญญาจะผ่อนรถเอง 
ก็ต้องงอนง้อ ยินยอมผู้ชายคนนั้นอยู่ทั้งชาติ
เพื่อให้ตนเองมีรถ และมีชีวิตอยู่ได้ 
จึงยอมทุ่มกายถวายตัวเปรียบเหมือนทาสอารมณ์เขา
เรียกว่าบูชาวัตถุจนไม่เห็นคุณค่าของตนเอง
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งก็มาจาก ความอ่อนแอ
ดูถูกตนเอง ไม่เชื่อว่าตนเองจะดำรงชีวิตอยู่ต่อได้ถ้าขาดคนช่วยเหลือ
จึงยอมตกเป็นเบี้ยล่าง ไร้ศักดิ์ศรี ให้คนดูถูกเหยียดหยาม

ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายก็จะไม่เห็นความสำคัญกับเราเลย
จะเห็นเราเป็นเพียงของเล่น เบื่อก็เขี่ยทิ้งทันที
และไปทำเช่นนี้กับคนอื่นๆต่อไป
ผู้หญิงพวกนี้ก็จะตกเป็นคนที่หลักลอย
เพราะคิดแต่จะพึ่งพาลมหายใจจากผู้อื่น
จะอยู่ได้ก็ต้องกู้หนี้ ยืมสิน กู้อีกเจ้า เพื่อมาใช้หนี้ให้กับอีกเจ้า
สุดท้ายก็จะติดหนี้สองทาง พอกพูนทวีขึ้นจนที่สุดก็จมลงก้นเหวก้นบ่อ
ไม่มีทางเป็นอิสระภาพได้
ส่งผลให้เกิดช่องว่าง ที่คนชอบฉกฉวยโอกาส เดินเข้ามา 
เพื่อยื่นข้อเสนอ ปลดหนี้ให้ เพื่อแลกกับ ชีวิตเราทั้งชีวิตเป็นทาสเขา 
ให้อยู่ในทุกสถานะได้ โดยไม่มีสิทธิปริปากพูดได้เลย

นี่คือผลของการบูชาเงินบูชาวัตถุ สุดท้ายจะจบลงด้วยการเป็นทาส

ส่วนการบูชารัก
เมื่อเราได้ใช้หัวใจ เชื่อมสัมพันธ์กัน
จนมารักกัน ได้มาแต่งงานกันอยู่กินกัน
แม้บางครั้งจะไม่ร่ำรวย
แต่สิ่งที่มีคือ สายใยรัก
สายใยรักนี้ มันจะกลายเป็นแรงผลัก เป็นกำลังใจ
ให้เราได้ขุดเอาศักยภาพของตนเองออกมา ทำมาหากิน
ในที่สุดก็จะสร้างฐานะที่มั่นคงได้ เรียกว่าได้ทั้งตัวได้ทั้งใจ
ได้ทั้งเพื่อนแท้ ในฐานะที่ร่วมสร้างร่วมสมลำบากกันมา
ลำบากบ้างระยะแรก แต่ก็สุขสบายเมื่อปลายมือ
ครองรักกันยั่งยืนนานจนตายจากกัน และมีอนาคตร่วมกันคือลูกหลานสืบทอดต่อ
นี่คืออนุภาพแห่งรัก