ยินดีต้อนรับทุกท่านสำหรับคนใจช้ำที่ถูกย่ำยีมาไม่ว่าคุณจะเป็นใครเราคือเพื่อนกัน

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

สัตว์มนุษย์


การดำรงชีวิตให้อยู่ได้
มันไม่ใช่แค่ หากินใส่ปากใส่ท้องไปวันๆเท่านั้น
เพราะถ้าเราทำเพียงเท่านั้น สัตว์ ก็ดำรงชีวิตของมันได้
แค่ กิน ขี้ ปี้ นอน หายใจต่อไปวันๆ
สัตว์ทั่วไปก็ทำได้

เราเป็นมนุษย์ หมายถึงเป็นสัตว์ประเสริฐ
เราต้องมีการดำเนินชีวิตให้สูงกว่าสัตว์เดรัจฉาน

สิ่งที่มนุษย์มี เหมือนกับสัตว์ทั่วไปมีก็คือ
กิน ขี้ ปี้ นอน 

แต่สิ่งที่มนุษย์มีและเดรัจฉานไม่มีคือ
จิตสำนึก และคุณธรรม ศีลธรรม
สัตว์เดรัจฉานมีเพียง สัญชาตญาณป่า
สัตว์ไม่มีศีลธรรม และคุณธรรม
ดังนั้นสัตว์จึง สมสู่กันเอง ไม่เลือกว่า จะเป็นพ่อ แม่ ลูกกัน หรือไม่

สัตว์ไม่มีการวางแผนในการดำเนินชีวิต
แต่มนุษย์มีการวางแผนในการดำเนินชีวิต
ดังนั้นมนุษย์จึงต้องมีการ สะสมทรัพย์ สะสมอาหารต่างๆ
ทั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนระยะยาวในการใช้ชีวิต
มนุษย์จะรู้ด้วยตนเองว่า เมื่อไหร่ ควรมีครอบครัว
เมื่อไหร่ควรมีลูกมาสืบทอดสายเลือดไว้บนโลกนี้
และจะสะสมทรัพย์ไว้เพื่อความมั่นคงให้ตนเอง
และครอบครัวจนเต็มกำลังความสามารถ
และยางวางแผนระยะยาวให้ลูกหลาน เช่น
ด้านการศึกษา วิชาชีพต่างๆ
ทั้งนี้ก็เพื่อความมั่นคงของลูกหลานตนเองสืบต่อไปนั่นเอง


ดังนั้นการดำเนินชีวิตของมนุษย์จึงมิใช่เพียงเพื่อให้ตนเองอยู่ได้
แต่ยังหมายถึงเพื่อให้คนอื่นอยู่ได้ด้วย
นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญ และงดงาม ที่มนุษย์ทำไว้ให้กัน

มนุษย์จึงมีระบบวัฒนธรรมถ่ายทอดไปจากรุ่นสู่รุ่น
มีการเคารพบรรพบุรุษ
ทั้งนี้ก็เพื่อ รำลึกถึง สิ่งที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้ทำไว้ให้นั่นเอง
เป็นการเคารพนบน้อม เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อกัน
และยังจะกลายเป็นแบบอย่างให้ลูกให้หลานรุ่นต่อไปสืบต่อไปได้อีกด้วย

การมีชีวิตอยู่ของมนุษย์
จึงไม่ใช่ การมีชีวิตอยู่ของตนเอง สืบวันไปเท่านั้น
เพราะการใช้ชีวิตเช่นนั้น สัตว์ก็ทำได้
เราต้องทำในสิ่งที่สัตว์ไม่มีวันทำได้
คือสร้างระบบศีลธรรม จรรยา
ระบบความรู้ แบบแผนชีวิตที่ถูกต้อง 
เพื่อให้ตกทอดเป็นวัฒนธรรมไปสู่คนรุ่นหลังด้วย
เราจึงจะหลุดพ้นจากคำว่าสัตว์เดรัจฉาน 
และก้าวไปสู่ความเป็นมนุษย์หรือสัตว์ประเสริฐต่อไป

อย่าทำตัวเหมือน หมาเน่า ขอนไม้ผุ ที่ลอยตามน้ำไปเรื่อย
แล้วแต่สายน้ำจะพัดพาไป
เพราะเช่นนั้นแล้ว เราก็จะไร้ค่าที่เกิดมาเป็นมนุษย์



วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

นี่แหละชีวิต



การมีชีวิตในโลกใบนี้คือสิ่งที่สวยงาม
ถ้าเราตัดความวุ่นวายต่างๆนาๆออกไปจากชีวิต
เราจะพบว่า โลกนี้มันน่าอยู่ น่าอาศัย
มองขวาก็มีสิ่งมีชีวิตร่วมโลก มองซ้ายก็มีสิ่งสวยงาม
ให้เราต้องค้นหา และไปเยือน

อะไรที่มันทำให้โลกนี้โสมม ไม่น่าอยู่
ก็คนเรานี่เอง เช่นกัน
เรามักสร้างกฎ ระเบียบต่างๆนาๆมากมาย มาเป็นโซ่ตรวน
มาเป็นพันทนาการ กักขัง ล่ามตนเองอยู่ทุกวัน

เราไม่มีสิทธิเสรีภาพ ตามที่ธรรมชาติให้เรามา
ตอนถือกำเนิดมา เราเป็นคนแล้วสมบูรณ์แบบ
แต่เมื่อเติบโตมา เราถูกกติกาของสังคม ลากเราเข้าไปในกรอบนั้น
จนทำให้เราสูญเสียความเป็นคนไป สูญเสียอิสระภาพเสรีไป
และบางครั้งเราเองก็ ได้ประโยชน์
จากการที่ต้องถูกจองจำโดยพันทนาการทางสังคมนั้นด้วย
เมื่อเราได้ประโยชน์จากมัน เราก็ยินดีปรีดาที่จะอยู่กับมัน
และหนักไปกว่านั้น เราเองก็กลายเป็นผู้ออกกฎ เพื่อกักล่าม กักขังผู้อื่นเสียเอง


เรารักสิ่งใด เราก็อยากกักขังหรือ ครอบครองสิ่งนั้น
เรารักนก เราก็มักจับนกมาใส่กรงขัง
เพียงแค่อยากให้มันอยู่กับเรา ทั้งที่ธรรมชาติของมันควรอยู่ในป่าใหญ่
เรารักสุนัข เราก็กักขังล่ามสุนัขนั้นเช่นกัน
เพียงเพื่อ อยากให้มันเป็นเพื่อนเรา อยากอยู่เหนือมัน
อยากควบคุมมัน สั่งให้มันหมอบ สั่งให้มันยกแข้งยกขา
เพียงเพื่อต้องการตอบสนองอารมณ์ความต้องการของตนเองเท่านั้น
เราไม่ได้รักมันอย่างแท้จริง

หรือแม้แต่ กับมนุษย์ด้วยกันเอง
เราก็กักขัง กักล่ามจิตใจกันเอง ตีกรอบ สร้างเงื่อนไข สร้างกติกาสารพัด
มากักขังมาล่ามกัน แล้วอ้างว่าทั้งหมดนี่คือรัก

ถ้าเรารู้จักรักที่แท้จริง เราจะรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น
รัก คือมุ่งดี หวังดี ปรารถนาดี ยินดี ที่ได้ทำ ได้เห็นสิ่งที่เรารัก
มีชีวิตที่ดี มีความสุข โดยไม่จำเป็นต้องกักล่ามตัวและหัวใจเขาไว้
เพื่ออยู่กับเราตลอดเวลา เพราะนั่นไม่ใช่ความรัก
แต่เป็นการปลดปล่อยปมด้อย และอารมณ์ความต้องการของตนเองแต่หนหลังออกมา

ความรักที่แท้จริง
มันเกิดขึ้นได้ กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานที่ ทุกเวลา
มันจะไม่จำกัดอยุ่เพียงแค่ใคร ผู้ใด สิ่งใด สิ่งหนึ่ง เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
และคำว่ารักที่แท้จริง ก็ไม่จำเป็นต้องยึดครอง ครอบครอง ครอบงำกัน

เพียงแค่เราได้เห็นเขามีความสุข
ใช้ชีวิตที่ถูกต้อง ถูกทาง ได้รัก ได้ห่วงใย
ได้ดูแล อยู่ห่างๆ เราก็เป็นสุขแล้ว
แม้บางครั้งเขาจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำบ้างก็ตาม
แต่เมื่อเวลาหนึ่งผ่านไป เมื่อเขามีใจที่เปิด ดำเนินชีวิตถูกทาง
 เขาจะรู้เองว่า สิ่งที่เราทำกับเขา คือรักแท้ คือสิ่งที่มีค่า

การที่ใครคนหนึ่ง กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
โดยไม่ได้อะไรตอบแทนเลย เราไม่เรียกว่า สิ่งล้ำค่า เราจะเรียกว่าอะไร

คนที่นอนกับเราทุกวัน กดขี่ข่มเหงเราทุกวัน
สารพัดสร้างปัญหา นำปัญหาเดือดร้อนมาให้เราไม่เว้นแต่ละวัน
แต่กลับไม่เคย ได้ทำในสิ่งที่เรียกว่ารักนั้นเลย
นี่ต่างหากที่ต้องกลับไปคิด

การที่คนคนนึงทำให้เรา ทุ่มเทให้เราได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่เขาไม่เคยได้แม้แตะต้อง สัมผัสตัวเราเลยสักครั้ง
แต่
หลายปีที่ผ่านมาเขากลับไม่เคยลดละที่จะทำสิ่งนั้น เพื่อเราเลย
อย่างนี้ ถ้าเราเรียกว่า แส่ เสือก เราก็ใจแคบ ใจดำเกินคนทั่วไป
ที่ มองไม่เห็นแม้แต่ ใครดี ใครชั่ว ใครคิดดี หวังดีกับเรา ก็แยกไม่ได้แล้ว
เราเองก็น่าเป็นห่วง

ชีวิตเรา มองเผินๆ ก็เหมือนกำลังเดินก้าวไปข้างหน้า
แต่ถ้ามองให้ลึกซึ้ง เราจะเห็นว่า เรากำลังเดินถอยกลับไปข้างหลัง
เรากำลังถอยกลับไปยังที่ ที่เรามา

ตอนที่เรามา เราแบเบาะไม่รู้ความไม่ประสีประสา
ต้องอาศัย มือพ่อแม่ กล่อมเกลา อบรมเลี้ยงดู ประคับประคองเราไว้
แต่เมื่อเราเติบใหญ่ เราก็กำลังเดินย้อนกลับไป โดยที่ไม่มีมือพ่อ มือแม่
คอยประคับประคองเราแล้ว เราจะเดินถอยหลังกลับไปอย่างไร
ในวัยที่โรยแรง ชราวัย
เราจึงต้องการมือใครซักคน
ที่ยื่นออกมาจากหัวใจรักที่บริสุทธิ์ เพื่อมาประคับประคองเรา
 พาเราเดินกลับไปยังจุดนั้นด้วยกัน โดยไม่ทอดทิ้งเรา
และรักเราจนนาทีสุดท้ายของชีวิต
เราต้องการมือที่มีรักแท้ รักบริสุทธิ์ อย่างนี้ หรือ
เราต้องการมือที่พร้อมจะผลักเรา ตบเรา ตีเรา ยามเราโรยแรง
สำหรับฉัน ก่อนที่ฉันจะหลับตาลาโลกนี้ไป
นาทีสุดท้ายของชีวิตฉัน ฉันอยากกุมมือใครซักคนที่รักเรา
 เข้าใจเรา จนนาทีสุดท้ายเท่านั้นฉันก็ไม่เสียดายที่ฉันได้เกิดมาบนโลกใบนี้ 
แม้ฉันจะได้อยู่กับเขา เพียงเศษเสี้ยวนาที
ฉันก็หลับตาลงได้ อย่างสนิทใจ และกล่าวคำขอบคุณเธอเป็นการอำลา


คนสุดท้าย พี่เป้าร้อง


กาลเวลาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ตัวของมันเอง


จิตใจที่งดงาม กาลเวลาก็ไม่สามารถทำลายมันลงได้

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

ฝนหลั่งมาน้ำตาพี่หลั่งริน



สายฝนน้ำตา


แค่ฝนตก ก็เหงา ใจของฉัน
ตกทุกวัน ใจฉัน เริ่มหวั่นไหว
ตกอย่างนี้ ต่อไป คงเหงาตาย
ก็เพราะใจ เคยช้ำ ระกำมา
เธอทิ้งพี่ จากไป วันฝนตก
ในหัวอก ฟกช้ำ อย่่างแสนสา
สายฝนหลั่ง ตัวพี่ รินน้ำตา
ดั่งอุรา จะขาด ลงรอนรอน
เมื่อฝนตก คราวใด ใจพี่ช้ำ
แสนระกำ เกินที่ จะไถ่ถอน
น้ำตาฟ้า หลั่งมา พาร้าวรอน
คิดถึงดวง สมร ย้อนเวลา
เธอรู้ไหม หัวใจ พี่อักเสบ
มันหนาวเหน็บ เจ็บปวด จนอ่อนล้า
เธอรู้ไหม แก้วใจ กัลยา
พี่คิดถึง วริญญา ทุกนาที
ตั้งหลายปี ที่เรา พรากจากกัน
ใจพี่นั้น ไม่คิด จะเบือนหนี
พี่เจ็บปวด รวดร้าว เศร้าฤดี
น้องจากพี่ ทิ้งพี่ ให้อาดูร
สายฝนหลั่ง ครั้งใด ให้ปวดร้าว
คิดแล้วเศร้า โศกา พณาสูร
จะมองซ้าย มองขวา ก็อาดูร
ใจว้าวุ่น คิดถึง วริญญา
จะกี่คืน กี่วัน ผ่านพ้นไป
พี่ลืมเธอ ไม่ได้ คล้ายคล้ายว่า
มีเธออยู่ ข้างกาย ตลอดมา
โอ้ริญจ๋า พี่นี้ เหงาเหลือเกิน











บทพิสูจน์รักแท้


บทพิสูจน์ว่าเรารักใครซักคน
มันพิสูจน์ไม่ยากเลย

ให้ดูว่าเวลาที่เราห่างเขา เราคิดถึงเขาไหม
เวลาที่เราได้พบเจอเขา เรารู้สึกดีใจ อุ่นใจขึ้นไหม
หรือเราได้ยินคำพูด ได้เห็นอะไรซักอย่างจากเขาส่งมาให้เรา
เรารู้สึกมีความสุขขึ้นหรือไม่

ถ้าเป็นอย่างนั้น มันใช่เลย
นั่นแสดงว่าเรารักเขาคนนั้นแน่นอน

และมันจะชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อคุณทะเลาะกับเขาแล้ว
คุณกลับไม่รู้สึก โกรธ เกลียดเขาเลย
ตรงกันข้าม
ไม่ว่าคุณจะทะเลาะกับเขาสักกี่ครั้ง
หัวใจคุณก็ยังคงถามหาและต้องการเขาอยู่เสมอ

นั่นแหละคือรักแท้
แสดงได้ว่าความรักคุณได้เริ่มพัฒนาไปอีกระดับ
หมายถึงคุณไปถึงขั้นที่สามารถทะเลาะกับเขาได้
โดยที่ยังรักกันอยู่

นี่เป็นต้นทางหรือจุดเริ่มต้นสู่การนำทางไปยังการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
เพราะการใช้ชีวิตคู่ คุณอย่าวาดฝันว่าชีวิตคู่ต้องไม่ทะเลาะกัน
มันไม่มี คนสองคน ต่างที่มา ต่างการเลี้ยงดู
ต่างฐานะ ต่างการศึกษา เมื่อมาอยู่ร่วมกัน มันย่อมมีเห็นต่างแน่นอน
เมื่อเราเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ คุณทะเลาะกันได้
มันก็หมายถึงคุณได้ยกระดับที่จะพูดคุยกันทุกเรื่องได้แล้ว

ทั้งๆที่คุณรู้ว่า ตรงนั้นเขาไม่ดี
แต่คุณกลับยังรักเขาอยู่เหมือนเดิม
นั่นก็แสดงว่าคุณยอมรับความต่าง
หรือข้อเสียของเขาได้แล้ว

คนเราทุกคนไม่มีใครดีทั้งหมด และก็ไม่มีใครเลวทั้งหมดเช่นกัน
เมื่อคุณเห็นข้อดี ข้อเสียของกันและกันแล้ว คุณรับได้
ก็แสดงว่าคุณรักเขา และพร้อมแล้วที่จะใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา

กระดาษขาวทั้งแผ่น
แค่เพียงมีจุดดำเล็กๆเพียงจุดเดียว
คุณก็บอกว่ากระดาษแผ่นนั้นเสียทั้งแผ่น
ก็แสดงว่าคุณใจแคบ
แค่จุดดำเล็กๆเพียงจุดเดียว
คุณกลับมองเห็นและนำมาเป็นประเด็น
แต่สวนที่ขาวมีเกือบทั้งแผ่นคุณกลับมองข้าม
กรณีอย่างนี้ คุณเองนั้นแหละที่มีปัญหา มีอคติ มีฑิฐิ
มีทัศนะคติที่แคบ มีอัตตา หรืออีโก้สูง

ถ้าเป็นอย่างนั้นคนที่ควรปรับปรุงคือตัวคุณเอง
อย่ามองหาคนที่ดีที่สุด แต่จงมองหาคนที่ เลว น้อยที่สุด
และคุณรับได้ และคุณรักเขา และเขาก็รักคุณ
เท่านั้นก็เพียงพอ
ชีวิตไม่ได้มีเวลามากสำหรับการคัดสรร
เมื่อคุณมั่นใจแล้วก็จงตัดสินใจ
ถ้าคุณเจอแล้วก็เปิดใจ
เขานั่นแหละคือคู่ชีวิตของคุณ อย่าทรมานกันให้เสียเวลาอีกต่อไปเลย (นะจ๊ะ)


วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

เวลาย้อนคืนไม่ได้แต่สิ่งถูกต้องเริ่มต้นได้เสมอ




เพื่อนเอย เราทุกคนไม่สามารถย้อนเวลาคืนกลับไปได้
แต่เราสามารถเลือกที่เดินในแนวทางที่ถูกต้องได้เสมอ
การเดินทางผิด ขืนเราเดินต่อไปมันก็ผิดอยู่ดี
ดังนั้นเมื่อเรารู้ว่าเราเดินทางผิด เราควรกลับมาแก้ไขใหม่
กลับมาเดินยังเส้นทางที่ถูกต้องใหม่ได้เสมอ
การเดินเส้นทางที่ถูกต้อง แม้บางครั้ง จะมองว่า เป็นการเสียเวลา
แต่เมื่อเราเทียบกับการเดินทางที่ผิด
แม้เราเดินไปถึงปลายทางแล้ว เราก็ไม่ได้อะไรเลย
นอกจากความว่างเปล่าเท่านั้น

สู้เรากลับมาเริ่มต้นเดินทางที่ถูกต้องดีกว่า
แม้ที่สุดแล้ว เราจะไปไม่ถึงปลายทาง
แต่มันก็คือการเริ่มต้นที่ถูกต้อง
อย่างน้อยเราก็สามารถบอกชาวโลกอย่างไม่อายปากว่า เรามาถูกทางแล้ว

อย่าให้อดีตที่ผิดพลาดมาคอยตามหลอกหลอนเราอยู่เลย
ชีวิตคนเรานั้น ยิ่งอายุมากขึ้น เส้นทางก็ยิ่งตีบตัน
สู้เราย้อนกลับมาแก้ไขสิ่งที่ผิด ให้ถูกต้อง
แล้วมุ่งหน้าไป อย่างน้อย เราก็ไม่ไปมือเปล่า
ตลอดเส้นทาง เราจะได้เพื่อน ได้คนรู้ใจ
ได้สร้างชีวิตใหม่ ทิ้งเอาไว้ให้โลกใบนี้ด้วย
ถึงเวลาที่เราต้องจากไป เราก็พูดได้ว่า ไม่เสียชาติที่เกิดมา

เกิดเป็นคน สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ หน้าที่ ความรับผิดชอบ
ถ้าเราขาดสิ่งนี้ เราก็ไร้ค่า

นับวันเราจะยิ่งอ่อนแอลงทุกวัน
นับวันเนื้อหนังเราก็ยิ่งหย่อนยาน
นับวันเส้นผมบนศรีษะเราก็จะยิ่งเปลี่ยนสีไป
เราเคยถามตัวเองไหมว่า เราเกิดมาทำไม
อยู่ไปวันๆ หายใจทิ้งไปวันๆรอเวลาตายเท่านั้นนะหรือ
เราทำได้มากไปกว่านั้นแน่นอน

สิ่งสำคัญในการมีชีวิตอยู่ มันไม่ใช่ อยู่อย่างไม่รับผิดชอบ
หรือต้อง หรูหรา มั่งคั่ง หากแต่เป็น อยู่แล้วภาคภูมิใจ
ภูมิใจที่ได้เกิดมา ภูมิใจที่ได้รับผิดชอบ
ภูมิใจที่ได้ให้ชีวิต ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่
ภูมิใจที่ได้ครองคู่อยู่กับใครซักคนที่เรารัก และเขารักเรา
ในเส้นทางที่ ไม่สวยงาม แต่มีความสุข ถูกต้อง 
ปราศจากสายตาที่ดูถูก เหยียดหยาม

เดินควงคู่ไปไหนต่อไหนได้โดยไม่อายสายตาใคร
 และเสียงซุบซิบจากใครลับหลังเรา
อยู่ได้โดยไม่ต้องหลบซ่อน หวาดระแวง หวาดกลัว
นั่นต่างหากคือความภูมิใจ

สิ่งที่เราทำอยู่ในวันนี้ ในขณะนี้
พอผ่านชั่วโมงนี้ไป ผ่านวันนี้ไป มันก็กลายเป็นอดีต
อดีตที่จะตามมาหลอกหลอนเรา หรือจะให้เราภูมิใจเมื่อนึกถึงมัน
ทั้งหมดมันล้วนขึ้นอยู่กับเวลาที่เราทำอยู่ขณะนี้ทั้งนั้น

อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่กับเงา ยามเฒ่าชรา
หาใครมาแม้ห่วงใยก็ไม่มี มันจะเป็นชีวิตที่บัดซบที่สุด
ที่เราได้ตัดสินใจผิดพลาด

อย่าคิดย้อนเวลาเพื่อปรับปรุงตัวเอง
แต่ให้ปรับปรุงตัวเองเพื่อตัวเองในเวลาที่เหลือให้ถูกต้องและดีที่สุดก็พอ




วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

รอยอดีต


เวลาเราทำอะไรให้ใคร เราไม่สนใจหรอกว่าเราจะได้อะไรกลับมา
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราก็มาย้อนดูเวลาได้ว่าที่ผ่านมาเราทำอะไร
ไปบ้าง อย่างน้อยมันก้บอกเราว่า ช่วงชีวิตหนึ่ง
เราเจออะไร อยู่ตรงไหน มีความทุกข์ หรือมีความสุข
ร่องรอยในอดีตนั้นมันจะบอกเตือนตัวเราเอง

การให้และน้ำใจที่ดีเมื่อถูกมองว่ามีค่าแค่ เสือก แส่
แน่นอนมันเจ็บปวด เมื่อได้ยินคำนี้
เจ็บจนไม่อยากมองหน้าคนที่พูดคำนี้

แต่สิ่งหนึ่งที่อยุ่ลึกกว่าอารมณ์นั้นก็คือ
สภาพความรู้สึกที่แท้จริง ที่เรามีต่อคนคนนั้น
แน่นอนเราเจ็บ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่นั้นก็เป็นการแสดงออกของตัวเขาเอง
ว่าเป็นอย่างไร ไม่เกี่ยวกับเรา

ส่วนตัวของเราเมื่อย้อนเข็มนาฬิกากลับมา
มันมีความรู้สึกที่ดีต่อเธอคนนั้นอยู่เสมอ
แม้ว่าเธอจะเปลี่ยนไปก็ตาม

อดีตทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะพฤติกรรมของตัวเราในวันนี้
พอผ่านชั่วโมงนี้ วันนี้ไป มันก็จะกลายไปเป็นอดีต
อย่างน้อยฉันก็ดีใจที่ไม่ใช่คนที่เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า
ฉันดีใจที่ฉันมีความรู้สึกที่ดี ที่นำมาอวด มาบอกได้ว่า 
ในอดีต ฉันดี หรือเลวกับเธออย่างไร





วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

หรือเราเนื้อคู่กัน



หรือเราเนื้อคู่กัน

คิดถึงเธอ ทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์
นั่งก็ลุก นอนก็ลุก  สุขไม่ได้
เดี๋ยวผุดลุก ผุดนั่ง กังวนใจ
เดี๋ยวแลหลัง แลซ้าย  มองหาเธอ
ทั้งที่เธอ ย่ำใจ ให้แหลกราน
ยังเฝ้าฝัน ถึงเธอ  อยู่เสมอ
ใจเอ๋ยใจ  ทำไม ถึงรักเธอ
ทั้งที่เธอ เหยียบย่ำ  ให้ช้ำใจ
หรือนี่เป็น รอยกรรม แต่ปางก่อน
มาคอยตาม หลอกหลอน ให้หมองไหม้
รักก็ทุกข์  เลิกก็ทุกข์  ผูกพันใจ
ไม่สมหมาย ใจชาย ยังรักนาง
สารพัด  สารพัน  หลอกหัวใจ
ว่าเธอเลว แค่ไหน  ให้เมินหมาง
เฝ้าสรรหา ความชั่ว  ของน้องนาง
เพื่อเปิดทาง ให้ใจ ได้ลืมเธอ
ยิ่งจะลืม หัวใจ ยิ่งจดจำ
ทุกถ้อยคำ  ยังจำ ได้เสมอ
ทุกคืนวัน  ผันผ่าน ยังละเมอ
ฝันถึงเธอ ทุกคืน มิเสื่อมคลาย
ที่รักจ๋า  กลับมา  รักกับพี่
ในชาตินี้ พี่คง  ลืมไม่ได้
รักก็ช้ำ  เลิกก็ช้ำ  กรรมหรือไร
กลับมารัก กันใหม่ เถิดคนดี
พี่ก็เจ็บ  เธอก็เจ็บ  เจ็บพอกัน
สองใจเรา  ผูกพัน เกินจะหนี
เธอมีใจ  พี่ใจ เยื่อใยมี
จึงหลบลี้  หนีใจ ไม่ได้เลย
มาเติมเต็ม หัวใจ  กันและกัน
อย่าไหวหวั่น  รักกัน  อย่างเปิดเผย
แม้อะไร จะเกิด  ให้เกิดเลย
มาเปิดเผย  ความรัก เราสองคน



วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

แก้วตาดวงใจ


แก้วคู่นั้น  มันเกิด มาจากรัก
เมื่อไร้รัก  ยากนัก  จะอยู่ได้
เธอปล่อยให้  เขามา  ตัดกิ่งใบ
จนยืนต้น  เฉาตาย เพราะใจเธอ
เธอไม่เคย  ดูแล  เก็บรักษา
ปล่อยเวลา  ผ่านไป  ให้ใจเก้อ
ไม่ถนอม  ฟูมฟัก  รักของเธอ
นั่งมองเหม่อ  ดูเธอ ไม่สนใจ
เธออยากได้  ดอกไม้  มีสีขาว
ยามสายลม พัดผ่าว โอนเอนไหว
เจ้าสายลม พาพัด กลิ่นยวนใจ
ให้สดชื่น  หัวใจ  ทุกวี่วัน
แม้ยามเหนื่อย  จากงาน  ถึงบ้านช่อง
กลิ่นดอกไม้  พี่ก้อง  ชั่งพาฝัน
ให้หายเหนื่อย  หายล้า  ในฉับพลัน
เธอบอกฉัน  ฉันจึง  เสาะหามา
มาวันนี้ ตายแล้ว  แก้วดวงใจ
เธอสุมไฟ  เผาไหม้  อย่างแสนสา
ไม่มีแล้ว  แก้วใจ  กัลยา
เธอได้ฆ่า  ทุกสิ่ง  หญิงอย่างเธอ



วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

เจ็บจำถ้อยคำเธอ


เธอได้ตาย ไปแล้ว จากใจฉัน
ไม่สำคัญ ว่าเธอ จะอยู่ไหน
ไม่อยากรู้ ว่าเธอ อยู่กับใคร
เธอจะอยู่ หรือตาย ชั่งหัวเธอ
เมื่อก่อนนี้ รักเธอ เหมือนนางแก้ว
ทำผิดแล้ว อภัย ให้เสมอ
เพราะรักแท้ ที่พี่ มีให้เธอ
จึงเสนอ สนอง ความต้องการ
ไม่คิดว่า เธอนั้น  จะใจดำ
สาระยำ ทำฉัน ให้ร้าวฉาน
ใช้ถ้อยคำ ย่ำฉัน จนแหลกราน
อยากจะผ่า ดวงมาลย์ ดูหัวใจ
ใครทำดี ทำชั่ว เธอไม่เห็น
กรรมหรือเวร แต่ชาติ  แต่หนไหน
ใครคิดดี คิดชั่ว เป็นอย่างไร
เธอจึงแยก ไม่ได้ ไร้ทิศทาง
ยืนชี้หน้า ด่ากราด สาดเสียหาย
อารมณ์ร้อน เป็นไฟ น่าเมินหมาง
เห็นเธอแล้ว ถอดใจ เสียกลางทาง
คงหยุดยั้ง ใจเธอ ไม่ได้เลย
เธอกับฉัน มันต่าง จนสุดขั้ว
เธอพร่ามัว แต่ฉัน นั้นเปิดเผย
ฉันรักเธอ ก็พูด ออกมาเลย
อยากกกเกย พร่ำพรอด ไม่ปิดบัง
แต่ตัวเธอ มีใจ หวาดระแวง
คิดหาเรื่อง จะคอย แทงข้างหลัง
เธอใจกล้า ฆ่าฉัน เพียงลำพัง
ใจของเธอ มันชั่ง แสนต่ำทราม
เธอกล้าฆ่า คนที่  ยื่นน้ำใจ
เธอกล้าใช้ ถ้อยคำ ที่เหยียดหยาม
เธอกล้าพูด กล้าทำ คำประณาม
เธอเหยียบย่ำ  คนที่ มีรักเธอ
เธอเกรี้ยวกราด เหมือนน้ำ ที่ไหลเชี่ยว
ผิดนิดเดียว เธอฆ่า ได้เสมอ
เธอจำแนก ไม่ได้ ใครรักเธอ
สมองเธอ คงเบลอ เพราะอารมณ์
มันจบแล้ว เธอฉัน ต่อแต่นี้
เจ็บเหลือที่ เจ็บเกิน จะทนข่ม
ตัวของเธอ นั้นคือ ไฟอารมณ์
ขึนอยู่ไป คงตรม ขมฤดี
จากนี้ไป ไม่มี สายสัมพันธ์
ขาดสะบั้น เธอฉัน เพียงเท่านี้
เธอจะอยู่  หรือตาย  ไม่ใยดี
แม้เป็นผี เจ็บนี้ พี่ยังจำ